20 พฤษภาคม 2553

ความจริงเกี่ยวกับ "Flash" จากปาก "Adobe"

หลัง "Apple" ออกแถลงการณ์ "Thoughts on Flash" เหน็บคุณภาพของ Flash "Adobe" จึงอยู่ไม่สุขออกโรงโต้คืนด้วยบทความ "The truth about Flash" เพื่อชี้แจงความจริงจาก Adobe บ้าง ไม่ใช้ฟังจาก Apple ฝ่ายเดียว...

หลัง จาก สตีฟ จอบส์ จากบ้าน Apple Inc. ออกแถลงการณ์ปิดผนึก"Thoughts on Flash" บนเว็บไซต์ apple.com เพื่อแจงเหตุผล 6 ข้อ กรณี ที่อุปกรณ์ไอทีสุดฮิต  iPhone, iPod และ iPad ไม่สนับสนุน Flash ว่า เป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่มีระบบแตกต่างกัน โดย Flash เป็นระบบปิด มีข้อบกพร่องทางเทคนิค รวมถึงความเสถียร ความปลอดภัย และประสิทธิภาพ  อีกทั้งยังไม่สนับสนุนระบบสัมผัส จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ Apple ไม่ยอมให้ Flash มาบั่นทอนคุณภาพของผลิตภัณฑ์นั่นเอง

ส่วนกรณีของการใช้งานวิดี โอบนเว็บต่าง ๆ นั้น  Apple ยืนยันว่า ไฟล์วิดีโอส่วนใหญ่ในปัจจุบัน อยู่ในรูปแบบ H.264 ซึ่งเป็นมาตรฐานทั่วไปในการเล่น Blu-ray นอกจากนี้ยังสามารถแสดงผลต่อเนื่องนานกว่า Flash และขณะนี้เว็บไซต์ยอดนิยมก็ปรับมาใช้ H.264 เกือบหมดแล้วเช่นกัน

สุด ท้าย Apple  ตบของแถมให้ Adobe ด้วยว่า หมดยุครุ่งเรืองของ Flash แล้ว และสิ่งที่ Adobe ควรทำนับต่อแต่นี้ไป คือมุ่งเน้นการสร้าง HTML5 สำหรับอนาคต เพื่อยุติการวิจารณ์ Apple ในภายหลัง

เมื่อถูกฝั่ง Apple ตบหน้ามาเช่นนี้ บ้าน Adobe ก็เห็นทีว่าจะอยู่สุขไม่ได้ จึงต้องชี้แจงแถลงไข (หรือจะเรียกว่าแก้ตัว ก็สุดแล้วแต่ใครจะคิด) โดยการส่งบทความ "The truth about Flash" ลงบนเว็บไซต์ adobe.com ซึ่งมีเนื้อหาใจความสำคัญอยู่ 5 ประการ ดังต่อไปนี้...

 "ระบบสัมผัส"

เดิมที Flash ถูกพัฒนามาเพื่อระบบสัมผัสของ Tablet และทุกวันนี้ Flash ก็สนับสนุนการทำงานของอุปกรณ์ระบบสัมผัสอย่างเต็มรูปแบบ

โดย เฉพาะอย่างยิ่ง Flash 10.1 ตัวใหม่ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อระบบสัมผัสโดยเฉพาะ  รวมถึงรองรับระบบ Multitouch อีกทั้งยังมีรูปแบบคำสั่ง ที่นักพัฒนาต้องเรียกใช้เมื่อต้องการเข้าถึงข้อมูลบนเว็บไซต์ หรือ API

"วิดีโอ"

วิดีโอ 75 เปอร์เซ็นต์บนเว็บไซต์ ต้องเล่นผ่าน Flash รวมถึงการเข้ารหัสวิดีโอ ในตัวแปลงยอดนิยมอย่างเช่น H.264 และ VP6

แม้จะมีการพูดถึงบ่อย ครั้งว่า  H.264 จะทำให้ Flash ตายไปในที่สุด แต่ Flash เป็นมัลติมีเดียสมบูรณ์แบบที่สามารถเล่น H.264 รวมถึงการแปลงสัญญาณอื่น ๆ  ซึ่งนอกจาก Flash จะแสดงวิดีโอคุณภาพสูงแล้ว ยังรองรับเทคโนโลยีหลากหลาย อาทิ Streaming , การปรับ Bitrate อัตโนมัติ (จำนวน bit ที่ถูกประมวลผลในหนึ่งหน่วยเวลา ตามปกติใช้หน่วยวินาที)  และมีการป้องกันความปลอดภัยของเนื้อหาด้วย

ซึ่งแน่นอนว่าการเล่น วิดีโอความละเอียดสูง (High-definition) ต้องใชงาน CPU หนัก จึงเป็นเหตุผลให้ Flash 10.1 รองรับ hardware-accelerate บนอุปกรณ์มือถือ ซึ่งลงตัวกับรูปแบบคำสั่ง API  ที่มีบน Mac OS X v10.6.3 ซึ่งใช้ GPU ช่วยประมวลผลได้ หมายความว่าการพัฒนา CPU ทั้งสองจะทำให้การเล่นวีดีโอ H.264 ผ่าน Flash บน  Mac เร็วขึ้นมาก และยังช่วยประหยัดพลังงานจากแบตเตอรี่ด้วย

"ประสิทธิภาพ"

เนื้อหา ของ Flash มีการเคลื่อนไหว เช่นเดียวกับเทคโนโลยีเนื้อหามัลติมีเดีย ที่ต้องการกำลังในการเข้าถึงมากว่าเนื้อหาแบบ HTML ทีมงานของ Flash จึงกำลังทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น

ทั้ง นี้ Adobe   เพิ่มประสิทธิภาพ Flash 10.1 บนอุปกรณ์มือถือ ครอบคลุมถึงหน่วยความจำ และการเล่นวิดีโอด้วย hardware-accelerate อีกทั้งยังคำนึงถึงถึงการแสดงเนื้อหาบน โทรศัพท์มือถือ  แล็ปทอบ เน็ตบุ๊ก และแท็ปเล็ตด้วยเช่นกัน

"ความปลอดภัย"

ความปลอดภัยเป็นหนึ่ง ในเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับทีมงาน Flash ซึ่งเห็นได้จากรายงานของ Symantec เมื่อปี 2009 ระบุว่า Flash มีข้อบกพร่องน้อยเป็นอันดับสองของเทคโนโลยีบนอินเตอร์เน็ตทั้งหมด รวมถึง Plug-in และเว็บเบราเซอร์ ( ขณะที่สตีฟ จอบส์ จากค่าย Apple อ้างรายงานจาก Symantec เช่นกัน ที่เคยเตือนไว้ว่า Flash มีความปลอดภัยต่ำที่สุดในการบันทึกของปี 2009)

ความสลับซับซ้อนของ ซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย และช่องโหว่ความปลอดภัยเป็นไปได้ในปัจจุบัน แต่ Adobe มีมาตรการลดจำนวนรวมของปัญหา ตลอดจนมั่นใจว่า สามารถแก้ไขปัญหาที่พบ ให้ลดลงได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับการปรับปรุง Flash รุ่นใหม่เร็วที่สุด และกำลังดำเนินงานร่วมกับผู้ผลิตเบราว์เซอร์ เพื่อตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Flash  ร่วมกับบรรดาเบราว์เซอร์

"ระบบ เปิด"

Flash เป็นระบบที่เกิดจากความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีระบบเปิด และแบบปิด ซึ่ง Adobe เป็นเจ้าของระบบปฏิบัติการแต่เพียงผู้เดียว (คล้ายกับ Apple)

ส่วนสำคัญเทคโนโลยีของ Flash  เป็นระบบเปิด อาทิ AVM + เป็นเอ็นจิ้นแบบ Open source และมอบให้กับ Mozilla ซึ่งมีการดูแลอย่างดี สำหรับไฟล์ฟอร์แม็ตที่ Flash รองรับนั้นมีทั้ง SWF และ FLV/F4V ดีเทียบเท่ากับ  RTMP และ AMF ซึ่งสามารถใช้เครื่องมือใดก็ได้ในการสร้างงาน Flash โดยไม่ต้องใช้ Adobe

ท้ายที่สุด Flash เกิดจากความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีระบบเปิด และระบบที่ Adobe เป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว อาทิการพัฒนา IDEs เช่น FDT, IntelliJ และ haXe ส่วนระบบเปิดแบบรันไทม์ คือ Gnash และระบบเปิดของวิดีโอเซิร์ฟเวอร์นั้นคือ  Red5

นอกจากนี้ Adobe ยังเปิดตัวแคมเปญโฆษณาใหม่ 2 สัปดาห์ หลังจาก สตีฟ จอบส์ลงจดหมายปิดผนึกเรื่อง Thoughts on Flash เพื่อเหน็บเรื่อง Flash ในเว็บไซต์  apple.com ซึ่งเชื่อว่าเป็นการโต้ตอบของ Adobe ต่อ Apple นั่นเอง สำหรับชื่อแคมเปญโฆษณาชิ้นนี้คือ We (love) CHOICE หรือ We (love) APPLE ซึ่งมีข้อความระบุดังต่อไปนี้...





เรารักการสร้าง
เรารักการพัฒนา
เรารักแอพพลิเคชั่น
เรารักเว็บ
เรารัก Flash
เรารักนักพัฒนากว่า 3 ล้านคนของเรา
เรารักการแข่งขันที่มี ศักยภาพ
เรารักหน้าจอสัมผัส
เรารัก HTML5
เรารักอุปกรณ์ทั้งหมด
เรารักแพลตฟอร์มทั้งหมด

"แต่สิ่งที่เราไม่รักก็คือ ใครก็ตามที่จำกัดอิสรภาพในการเลือกว่าจะสรรค์สร้างอะไร อย่างไร และประสบการณ์อะไรที่ได้จากเว็บ"





คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ศึกระหว่าง "Apple" และ "Adobe" ในท้ายที่สุด จะออกมาให้เห็นในรูปแบบใด.

ข่าวจากไทยรัฐออนไลท์ วันที่ 17 พ.ค. 2553

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น