26 พฤษภาคม 2553

ฮาร์ดดิสก์"ไฮบริด"เร็วกว่า-ราคาไม่แพงฮาร์ดดิสก์

แม้ SSD (Solid State Disk) จะทำงานได้เร็วกว่าฮาร์ดดิสก์ (HDD) แต่มันก็มีราคาที่แพงกว่าด้วย ทำให้ความนิยมในการใช้ SSD ไม่สูงเท่าที่ควร ล่าสุดซีเกท (Seagate) จับดิสก์ไดรฟ์ทั้งสองมารวมกัน โดยใช้จุดแข็งของประสิทธิภาพในการทำงานที่เร็วกว่าของ SSD ในขณะที่ระดับราคาไม่สูงเกินไปนัก

Momentus XT Hybrid HDD เป็นฮาร์ดดิสก์ SATA ขนาด 2.5 นิ้วที่เร็วทีสุดในโลกสำหรับใช้งานกับแลปทอป โดยทางซีเกทอ้างว่า มันเร็วกว่า HDD ที่ความเร็วรอบ 5,400RPM ถึง 100% หรือเร็วกว่า HDD 7,200RPM ประมาณ 80% ซึ่งความลับของความเร็วที่ได้จาก Momentus XT อยู่ที่เทคโนโลยี Adaptive Memory โดยเป็นการไฮบริดฮาร์ดดิสก์ความเร็วรอบ 7,200RPM ทำงานร่วมกับ NAND flash ขนาด 4GB ด้วยการก็อปปี้ข้อมูลจากดิสก์เข้าไปใน SSD 4GB เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลเร็วขึ้น

Asus เป็นผู้ผลิตโน้ตบุ๊กรายแรกที่ใช้ฮาร์ดิสก์ไฮบริด Momentus XT โดยเป็นอัพเกรดออปชันสำหรับโน้ตบุ๊กรุ่น ROG G73 ซึ่งนอกจากจะอัพเกรดด้วยฮาร์ดดิสก์ที่เร็วขึ้นแล้ว โน้ตบุ๊กรุ่นนี้ยังมา พร้อมกับซีพียู Intel I7 720Qm Quad-core หน่วยความจำ DDR3 8GB และใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก หรือ GPU เป็น ATI Radeon Mobility HD 5870 อีกด้วย สำหรับฮาร์ดดิสก์ไฮบริด Momentus XT มีให้เลือก 3 ความจุด้วยกันคือ 250GB ($113 หรือประมาณ 3,700 บาท) 320GB ($122 หรือประมาณ 4,000 บาท) และ 500GB ($156 หรือประมาณ 5,000 บาท)



ข่าวจาก arip.co.th วันที่ 24 พฤษภาคม 2553

20 พฤษภาคม 2553

ความจริงเกี่ยวกับ "Flash" จากปาก "Adobe"

หลัง "Apple" ออกแถลงการณ์ "Thoughts on Flash" เหน็บคุณภาพของ Flash "Adobe" จึงอยู่ไม่สุขออกโรงโต้คืนด้วยบทความ "The truth about Flash" เพื่อชี้แจงความจริงจาก Adobe บ้าง ไม่ใช้ฟังจาก Apple ฝ่ายเดียว...

หลัง จาก สตีฟ จอบส์ จากบ้าน Apple Inc. ออกแถลงการณ์ปิดผนึก"Thoughts on Flash" บนเว็บไซต์ apple.com เพื่อแจงเหตุผล 6 ข้อ กรณี ที่อุปกรณ์ไอทีสุดฮิต  iPhone, iPod และ iPad ไม่สนับสนุน Flash ว่า เป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่มีระบบแตกต่างกัน โดย Flash เป็นระบบปิด มีข้อบกพร่องทางเทคนิค รวมถึงความเสถียร ความปลอดภัย และประสิทธิภาพ  อีกทั้งยังไม่สนับสนุนระบบสัมผัส จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ Apple ไม่ยอมให้ Flash มาบั่นทอนคุณภาพของผลิตภัณฑ์นั่นเอง

ส่วนกรณีของการใช้งานวิดี โอบนเว็บต่าง ๆ นั้น  Apple ยืนยันว่า ไฟล์วิดีโอส่วนใหญ่ในปัจจุบัน อยู่ในรูปแบบ H.264 ซึ่งเป็นมาตรฐานทั่วไปในการเล่น Blu-ray นอกจากนี้ยังสามารถแสดงผลต่อเนื่องนานกว่า Flash และขณะนี้เว็บไซต์ยอดนิยมก็ปรับมาใช้ H.264 เกือบหมดแล้วเช่นกัน

สุด ท้าย Apple  ตบของแถมให้ Adobe ด้วยว่า หมดยุครุ่งเรืองของ Flash แล้ว และสิ่งที่ Adobe ควรทำนับต่อแต่นี้ไป คือมุ่งเน้นการสร้าง HTML5 สำหรับอนาคต เพื่อยุติการวิจารณ์ Apple ในภายหลัง

เมื่อถูกฝั่ง Apple ตบหน้ามาเช่นนี้ บ้าน Adobe ก็เห็นทีว่าจะอยู่สุขไม่ได้ จึงต้องชี้แจงแถลงไข (หรือจะเรียกว่าแก้ตัว ก็สุดแล้วแต่ใครจะคิด) โดยการส่งบทความ "The truth about Flash" ลงบนเว็บไซต์ adobe.com ซึ่งมีเนื้อหาใจความสำคัญอยู่ 5 ประการ ดังต่อไปนี้...

 "ระบบสัมผัส"

เดิมที Flash ถูกพัฒนามาเพื่อระบบสัมผัสของ Tablet และทุกวันนี้ Flash ก็สนับสนุนการทำงานของอุปกรณ์ระบบสัมผัสอย่างเต็มรูปแบบ

โดย เฉพาะอย่างยิ่ง Flash 10.1 ตัวใหม่ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อระบบสัมผัสโดยเฉพาะ  รวมถึงรองรับระบบ Multitouch อีกทั้งยังมีรูปแบบคำสั่ง ที่นักพัฒนาต้องเรียกใช้เมื่อต้องการเข้าถึงข้อมูลบนเว็บไซต์ หรือ API

"วิดีโอ"

วิดีโอ 75 เปอร์เซ็นต์บนเว็บไซต์ ต้องเล่นผ่าน Flash รวมถึงการเข้ารหัสวิดีโอ ในตัวแปลงยอดนิยมอย่างเช่น H.264 และ VP6

แม้จะมีการพูดถึงบ่อย ครั้งว่า  H.264 จะทำให้ Flash ตายไปในที่สุด แต่ Flash เป็นมัลติมีเดียสมบูรณ์แบบที่สามารถเล่น H.264 รวมถึงการแปลงสัญญาณอื่น ๆ  ซึ่งนอกจาก Flash จะแสดงวิดีโอคุณภาพสูงแล้ว ยังรองรับเทคโนโลยีหลากหลาย อาทิ Streaming , การปรับ Bitrate อัตโนมัติ (จำนวน bit ที่ถูกประมวลผลในหนึ่งหน่วยเวลา ตามปกติใช้หน่วยวินาที)  และมีการป้องกันความปลอดภัยของเนื้อหาด้วย

ซึ่งแน่นอนว่าการเล่น วิดีโอความละเอียดสูง (High-definition) ต้องใชงาน CPU หนัก จึงเป็นเหตุผลให้ Flash 10.1 รองรับ hardware-accelerate บนอุปกรณ์มือถือ ซึ่งลงตัวกับรูปแบบคำสั่ง API  ที่มีบน Mac OS X v10.6.3 ซึ่งใช้ GPU ช่วยประมวลผลได้ หมายความว่าการพัฒนา CPU ทั้งสองจะทำให้การเล่นวีดีโอ H.264 ผ่าน Flash บน  Mac เร็วขึ้นมาก และยังช่วยประหยัดพลังงานจากแบตเตอรี่ด้วย

"ประสิทธิภาพ"

เนื้อหา ของ Flash มีการเคลื่อนไหว เช่นเดียวกับเทคโนโลยีเนื้อหามัลติมีเดีย ที่ต้องการกำลังในการเข้าถึงมากว่าเนื้อหาแบบ HTML ทีมงานของ Flash จึงกำลังทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น

ทั้ง นี้ Adobe   เพิ่มประสิทธิภาพ Flash 10.1 บนอุปกรณ์มือถือ ครอบคลุมถึงหน่วยความจำ และการเล่นวิดีโอด้วย hardware-accelerate อีกทั้งยังคำนึงถึงถึงการแสดงเนื้อหาบน โทรศัพท์มือถือ  แล็ปทอบ เน็ตบุ๊ก และแท็ปเล็ตด้วยเช่นกัน

"ความปลอดภัย"

ความปลอดภัยเป็นหนึ่ง ในเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับทีมงาน Flash ซึ่งเห็นได้จากรายงานของ Symantec เมื่อปี 2009 ระบุว่า Flash มีข้อบกพร่องน้อยเป็นอันดับสองของเทคโนโลยีบนอินเตอร์เน็ตทั้งหมด รวมถึง Plug-in และเว็บเบราเซอร์ ( ขณะที่สตีฟ จอบส์ จากค่าย Apple อ้างรายงานจาก Symantec เช่นกัน ที่เคยเตือนไว้ว่า Flash มีความปลอดภัยต่ำที่สุดในการบันทึกของปี 2009)

ความสลับซับซ้อนของ ซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย และช่องโหว่ความปลอดภัยเป็นไปได้ในปัจจุบัน แต่ Adobe มีมาตรการลดจำนวนรวมของปัญหา ตลอดจนมั่นใจว่า สามารถแก้ไขปัญหาที่พบ ให้ลดลงได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับการปรับปรุง Flash รุ่นใหม่เร็วที่สุด และกำลังดำเนินงานร่วมกับผู้ผลิตเบราว์เซอร์ เพื่อตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Flash  ร่วมกับบรรดาเบราว์เซอร์

"ระบบ เปิด"

Flash เป็นระบบที่เกิดจากความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีระบบเปิด และแบบปิด ซึ่ง Adobe เป็นเจ้าของระบบปฏิบัติการแต่เพียงผู้เดียว (คล้ายกับ Apple)

ส่วนสำคัญเทคโนโลยีของ Flash  เป็นระบบเปิด อาทิ AVM + เป็นเอ็นจิ้นแบบ Open source และมอบให้กับ Mozilla ซึ่งมีการดูแลอย่างดี สำหรับไฟล์ฟอร์แม็ตที่ Flash รองรับนั้นมีทั้ง SWF และ FLV/F4V ดีเทียบเท่ากับ  RTMP และ AMF ซึ่งสามารถใช้เครื่องมือใดก็ได้ในการสร้างงาน Flash โดยไม่ต้องใช้ Adobe

ท้ายที่สุด Flash เกิดจากความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีระบบเปิด และระบบที่ Adobe เป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว อาทิการพัฒนา IDEs เช่น FDT, IntelliJ และ haXe ส่วนระบบเปิดแบบรันไทม์ คือ Gnash และระบบเปิดของวิดีโอเซิร์ฟเวอร์นั้นคือ  Red5

นอกจากนี้ Adobe ยังเปิดตัวแคมเปญโฆษณาใหม่ 2 สัปดาห์ หลังจาก สตีฟ จอบส์ลงจดหมายปิดผนึกเรื่อง Thoughts on Flash เพื่อเหน็บเรื่อง Flash ในเว็บไซต์  apple.com ซึ่งเชื่อว่าเป็นการโต้ตอบของ Adobe ต่อ Apple นั่นเอง สำหรับชื่อแคมเปญโฆษณาชิ้นนี้คือ We (love) CHOICE หรือ We (love) APPLE ซึ่งมีข้อความระบุดังต่อไปนี้...





เรารักการสร้าง
เรารักการพัฒนา
เรารักแอพพลิเคชั่น
เรารักเว็บ
เรารัก Flash
เรารักนักพัฒนากว่า 3 ล้านคนของเรา
เรารักการแข่งขันที่มี ศักยภาพ
เรารักหน้าจอสัมผัส
เรารัก HTML5
เรารักอุปกรณ์ทั้งหมด
เรารักแพลตฟอร์มทั้งหมด

"แต่สิ่งที่เราไม่รักก็คือ ใครก็ตามที่จำกัดอิสรภาพในการเลือกว่าจะสรรค์สร้างอะไร อย่างไร และประสบการณ์อะไรที่ได้จากเว็บ"





คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ศึกระหว่าง "Apple" และ "Adobe" ในท้ายที่สุด จะออกมาให้เห็นในรูปแบบใด.

ข่าวจากไทยรัฐออนไลท์ วันที่ 17 พ.ค. 2553

18 พฤษภาคม 2553

'สตีฟ จอบส์' แจง Flash ไม่เหมาะกับ Apple-ระบบสัมผัส

เนื่องด้วยสินค้าของ Apple มาแรงทั้ง iPhone, iPod และ iPad แต่ไม่สามารถใช้งาน Flash ได้จนเกิดคำถามมากมายในกลุ่มผู้ใช้และคนรัก Adobe ล่าสุด 'สตีฟ จอบส์'  แจงด้วยตัวเองว่า เป็นเพราะความแตกต่างทางเทคโนโลยี...

สตีฟ จอบส์ เขียนจดหมายปิดผนึกลงในเว็บไซต์ apple.com เมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับความสัมพันธ์อันยาวนานกับ Adobe และแจงเหตุผลของการไม่มี Flash ในสินค้า iPhone, iPod และ iPad   ว่า ไม่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องเชิงธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่มีระบบแตกต่างกัน โดยจอบส์ อธิบายแจงเป็นข้อ ๆ จำนวน 6 ข้อ ดังต่อไปนี้

1. ระบบ "เปิด"


Flash เป็นผลิตภัณฑ์ของ Adobe ซึ่งเป็นผู้ผูกขาดทางตลาดทั้งหมดของ Flash  ทั้งเรื่องสิทธิ์ ทิศทางโปรแกรมในอนาคต รวมถึงราคาจำหน่าย ฯลฯ หรือที่เรียกว่า ระบบปิด

ด้าน Apple เองก็คล้ายกับ Adobe ในเรื่องของระบบปฏิบัติการบน iPhone, iPod และ iPad ซึ่งเป็นของ Apple เพียงผู้เดียว แต่ทั้งนี้ยังคำนึงถึงมาตรฐานเว็บไซต์ในระบบเปิดมากกว่า Flash อาทิการใช้ HTML5, CSS และ JavaScript ซึ่งเป็นระบบเปิดทั้ง 3 อย่าง

HTML5 เป็นมาตรฐานเว็บไซต์แบบเปิดตัวใหม่ ซึ่งพัฒนาโดย Apple, Google และกลุ่มอื่นๆ โดยเปิดโอกาสให้นักพัฒนาเว็บไซต์ได้สรรสร้างงานกราฟฟิค ไทโปกราฟฟิค แอนิเมชั่น และทรานซิชั่น โดยไม่ต้องพึ่งพา Plug-in เช่น Flash


นอกจากนี้ Apple ยังเริ่มโครงการ Open  source ขนาดเล็ก และสร้าง Webkit ซึ่งเป็นมาตรฐานการแสดงผล HTML5 บนหน้าเว็บ โดยมีหัวใจหลักคือ เว็บบราวเซอร์ "Safari" ที่ใช้กับทุกๆ ผลิตภัณฑ์ และขณะนี้ Webkit ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวาง ทั้งบนเว็บบราวเซอร์ Android ของ Google, Plam, Nokia และ RIM ที่เพิ่งประกาศบนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน BlackBerry รวมถึงเว็บบราวเซอร์บนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนอื่นๆ ของ Microsoft ก็ใช้ Webkit เช่นเดียวกัน

2.เว็บเต็มรูปแบบ
Adobe เคยกล่าวไว้ว่า โทรศัพท์มือถือของ Apple นั้น ไม่สามารถใช้งานเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ เพราะว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ของวิดีโอบนเว็บต่างๆ ใช้ Flash แต่ Adobe ไม่ได้กล่าวถึงว่า ปัจจุบันไฟล์วิดีโอส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบ H.264 ซึ่งสามารถแสดงผลบน iPhone, iPod และ iPad ได้ ซึ่งตอนนี้วิดีโอของ Youtube ราว 40 เปอร์เซ็นต์เป็นรูปแบบ H.264 แล้ว รวมถึงเว็บไซต์ยอดนิยม เช่น Vimeo, Netflix, Facebook, ABC, CBS, CNN, MSNBC, Fox News, ESPN, NPR, Time, The New York Times, The Wall Street Journal, Sports Illustrated, People, National Geographic ฯลฯ ก็ปรับมาใช้ H.264 เกือบหมดเช่นกัน

นอกจาก นี้ Adobe ยังวิจารณ์ว่า Apple ไม่สามารถเล่นเกมส์ Flash ได้ แต่ Apple ขอแย้งว่า เรามีอีกกว่า 50,000 เกมส์บน App Store ให้ผู้ใช้งานได้ดาวน์โหลดไปใช้ฟรีๆ

3.ความเสถียร ความปลอดภัย และประสิทธิภาพ


Symantec เคยเตือนว่า Flash มีความปลอดภัยต่ำที่สุดในการบันทึกของปี 2009 โดย Apple ทราบว่า Flash เป็นหนึ่งเหตุผลในการเกิดปัญหาบนระบบปฏิบัติการของ Mac อย่างไรก็ตาม Apple เคยประสานกับ Adobe เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่เป็นผลจนถึงขณะนี้ ท้ายที่สุด Apple จึงไม่ยอมให้ Flash มาบั่นทอนความเสถียร ความปลอดภัย และประสิทธิภาพ บนผลิตภัณฑ์ทั้ง iPhone, iPod และ iPad


นอกจากนี้  Flash ยังไม่สามารถแสดงผลได้ดีบนโทรศัพท์มือถือ

4. ความยาวนานของแบตเตอรี่

อายุ การใช้งานของแบตเตอรี่ในการเล่นวิดีโอ หากต้องถอดรหัสการใช้งาน จะทำให้ซอฟต์แวร์ใช้พลังงานเยอะ แต่ในขณะที่ชิพในโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ สามารถถอดรหัสแบบ H.264 ได้ ซึ่งเป็นมาตรฐานทั่วไปในการเล่น Blu-ray ที่พัฒนาโดย Apple, Google (Youtube), Vimeo, Netflix และอีกหลายบริษัท ส่วน Flash นั้นเพิ่งปรับระบบให้สนับสนุนระบบ H.264 แต่ยังคงต้องการการถอดรหัสแบบเดิม ที่ต้องอาศัยการทำงานของซอฟต์แวร์

สำหรับ ข้อแตกต่างของอายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้นหากเป็น H.264 ระสามารถแสดงผลต่อเนื่องนาน 10 ชั่วโมง แต่หากเป็น Flash แล้วจะหดสั้นลงเหลือเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น

5.ระบบสัมผัส


Flash ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานรับกับเมาส์ ไม่ได้ทำมาเพื่อระบบสัมผัส ตัวอย่างเช่น หลายเว็บไซต์ที่ใช้ Flash จำเป็นต้องมีการคลิกเมาส์เพื่อตอบรับการปฏิบัติการณ์ แต่การพัฒนาระบบสัมผัสของ Apple ไม่จำเป็นต้องใช้เมาส์
ซึ่งเว็บไซต์ Flash ส่วนใหญ่ จะต้องแก้ไขโปรแกรมใหม่เพื่อให้สนับสนุนกับระบบสัมผัส  จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Apple ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า เช่น HTML5, CSS และ JavaScript

ทั้งนี้ หาก iPhone, iPod และ iPad ใช้ Flash ในตอนนี้ภายภาคหน้าก็ต้องพบกับการแก้ไขปัญหาระบบดังกล่าว

6.ประการสำคัญที่สุด


นอก เหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่า Flash เป็นระบบปิด มีข้อบกพร่องทางเทคนิค  และไม่สนับสนุนระบบสัมผัส เป็นเหตุผลสำคัญที่ Apple ไม่ใช้ Flash บน iPhone, iPod และ iPad

 และยังรวมถึงความล่าช้าของ Adobe ในการพัฒนา แพลตฟอร์มของ Apple ตัวอย่างเช่น Mac OS X 5ถูกนำมาใช้ร่วม 10 ปีแล้ว ซึ่งโดยปกติโปรแกรมที่ทำงานบนระบบดังกล่าว จะต้องเขียนด้วย Cocoa แต่ Adobe เพิ่งจะพัฒนาโปรแกรมเพื่อให้เข้ากับระบบปฏิบัติการ Mac OS X 5 เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ในรุ่น CS5

แรงจูงใจโดยทั่วไปของ Apple คือ ต้องการให้เป็นแพลตฟอร์มที่ก้าวหน้า เพื่อการพัฒนา และต้องการให้แพลตฟอร์มสามารถยืนหยัดได้ รวมถึงสร้าง app ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา อีกทั้งต้องการให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับแพลตฟอร์มให้น่า อัศจรรย์ และแข็งแกร่ง สนุกสนาน รวมถึงมีประโยชน์ต่อการการใช้งาน

บทสรุป


Flash ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยของ PC กับเมาส์ และ Flash นับเป็นความสำเร็จอย่างสูงของ Adobe ในยุคนั้น ซึ่งทำให้เข้าใจว่า เพราะเหตุใด Adobe จึงพยายามผลักดันลงไปในคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อมาถึงยุคของโทรศัพท์มือถือระบบสัมผัส และมาตรฐานเว็บระบบเปิด  ทำให้พื้นที่ของ Flash น้อยลง

ทั้งนี้ การแสดงเนื้อหาบนโทรศัพท์มือถือของ Apple ยังแสดงให้เห็นว่า Flash ไม่จำเป็นอีกต่อไป เพื่อดูวิดีโอ หรือการใช้เว็บต่างๆ รวมถึงอีกกว่า 200,000 apps บน  App Store ที่เป็นอีกข้อพิสูจน์ ที่ว่า Flash ไม่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาในการสรรสร้างงานกราฟิก รวมถึงเกม ด้วยเช่นกัน

และ เชื่อว่ามาตรฐานเปิด เช่น HTML5 จะไปได้สวยกับโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ ซึ่ง Apple เชื่อว่าบางที Adobe ควรมุ่งเน้นการสร้าง HTML5 สำหรับอนาคต และจะได้ลดวิจารณ์ Apple ในภายหลัง.

ข่าวจากไทยรัฐออนไลท์ วันที่ 12 พ.ค. 2553

09 พฤษภาคม 2553

“ไมโครซอฟท์” โต้ฮอตเมล์ไม่เคยเรียกเก็บเงิน

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เต้นรุดแจง เรื่องฟอร์เวิร์ดอีเมล์แอบอ้างเกี่ยวกับการปิดบัญชีอีเมล์ Hotmail ในประเทศไทย ที่กำลังกระจายไปยังผู้ใช้งาน...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่มีฟอร์เวิร์ดอีเมล์ฉบับหนึ่ง อ้างว่า เซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการของไมโครซอฟท์เต็ม เนื่องจากมีผู้ใช้บริการ Hotmail ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ไมโครซอฟท์ จึงจะดำเนินการปิดการให้บริการสำหรับบัญชีอีเมล์ที่ไม่มีการใช้งาน และ เพื่อให้สามารถใช้บริการ Hotmail ต่อไปได้ ผู้ใช้งานจะต้องส่งต่ออีเมล์ฉบับนี้ไปให้ทุกคนในรายชื่อผู้ติดต่อของตนเอง

รายงาน ข่าวแจ้งว่า บริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศขอชี้แจงให้ผู้ใช้บริการทุกท่านทราบถึงนโยบายเกี่ยวกับบัญชีอีเมล์ ที่ไม่มีการใช้งาน ดังนี้

บัญชีอีเมล์ฟรีทุกบัญชีของ Hotmail จะจัดเป็นบัญชีอีเมล์ที่ไม่มีการใช้งานก็ต่อเมื่อ ไม่มีการลงชื่อเข้าใช้บริการมากกว่า 270 วัน หรือ ไม่มีการลงชื่อเข้าใช้บริการภายใน 10 วันแรก หลังจากลงทะเบียนใช้บริการ และหลังจากที่บัญชีอีเมล์ นั้นๆ กลายเป็นบัญชีอีเมล์ที่ไม่มีการใช้งาน ทุกข้อความ โฟล์เดอร์ และ รายชื่อผู้ติดต่อจะถูกลบ และทุกข้อความที่ส่งถึงอีเมล์นั้นจะได้รับข้อความตอบกลับว่าไม่สามารถส่งข้อ ความได้

ในกรณีมีการเปลี่ยนแปลงการให้บริการหรือกฎระเบียบต่างๆ  ไมโครซอฟท์จะมีการแจ้งข้อมูลให้ผู้ใช้บริการได้ทราบผ่านช่องทางต่างๆ อย่างเป็นทางการ  ดังนั้น เราขอแจ้งเตือนให้ทุกผู้ใช้บริการได้ทราบว่า ฟอร์เวิร์ดอีเมล์แอบอ้างดังกล่าวไม่ได้มาจากไมโครซอฟท์ และขอความร่วมมือไม่ส่งต่ออีเมล์ดังกล่าว เพื่อลดจำนวนอีเมล์ขยะ

ข่าวจากไทยรัฐออนไลท์ วันที่ 7 พ.ค. 2553

26 เมษายน 2553

โซนี่ปิดฉาก"ฟลอปปี้ดิสก์"ในญี่ปุ่นแล้ว

รายงานข่าวจากซีเน็ตระบุว่า สำหรับปีทำการที่แล้วของโซนี่ (Sony) มีการจำหน่ายฟลอปปี้ดิสก์ (Floppy Disk) ไปประมาณ 12 ล้านแผ่น ที่เห็นว่า มันมากมายขนาดนั้นก็เพราะว่า โซนี่เป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดเพียงเจ้าเดียวที่ยังคงผลิตแผ่นฟลอปปี้ดิสก์ ออกมาจำหน่าย แต่ล่าสุดทางบริษํทได้ตัดสินใจเลิกผลิตแผ่นดิสก์ชนิดนี้แล้ว

โซนี่เป็นบริษัทที่นำฟอร์แมตแผ่นดิสก์ขนาด 3.5 นิ้วเข้าสู่ตลาดในปี 1981 หรือประมาณ 29 ปีที่แล้ว หลังจากนั้น แผ่นดิสก์ชนิดนี้ก็เริ่มล้มหายตายจากไปในท้องตลาด ก่อนที่บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อย่างเดลล์จะออกมาประกาศว่า คอมพิวเตอร์ของบริษัทจะไม่มีไดรฟ์ A: (ที่ใช้อ่านแผ่นดิสก์ 3.5 นิ้ว) อีกต่อไป สาเหตุสำคัญที่ทำให้แผ่นดิสก์พวกนี้เสื่อมถอยความนิยมก็เนื่องจากการเกิดของ ตลาดการ์ดหน่วยความจำ ยูเอสบีไดรฟ์ และแผ่น CD/DVD ชนิดที่สามารถบันทึกข้อมูลที่ความจุมากกว่าหลายเท่า



จะว่าไปแล้วแผ่นดิสก์ 3.5 นิ้ว เมื่อเทียบขนาดของแผ่นกับความจุแค่ 1.44MB มันดูจะเป็นการพกพาสื่อบันทึกที่ใหญ่เกินไป ในขณะทีเก็บข้อมูลได้น้อยมาก ยิ่งถ้าเทียบกับราคาสตอเรจในปัจจุบัน แผ่นดิสก์พวกนี้มีมูลค่าไม่ถึงครึ่งเซนต์ (ประมาณ 16 สตางค์) เสียด้วยซ้ำ ล่าสุดทางโซนี่จึงได้ตัดสินใจเลิกผลิตแผ่นดิสก์ตั้งแต่ต้นปีทำการหน้าเป็นต้นไป

15 เมษายน 2553

ไมโครซอฟท์เตือน ใช้โปรแกรมเถื่อนทำคอมพัง

แนะเช็คลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ผ่าน www.microsoft.com/genuine ล่าสุดพัฒนาเทคโนโลยี WAT คุ้มครองผู้ใช้วินโดวส์ 7 เน้นประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน พร้อมป้องกันภัยคุกคามออนไลน์...

13 เม.ย. น.ส.ปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตรวจพบระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 ละเมิดลิขสิทธิ์ที่บรรจุมัลแวร์ เผยแพร่ให้ดาวน์โหลดทางอินเทอร์เน็ต และวางจำหน่ายกับตัวแทนผิดกฎหมาย ก่อนที่วินโดวส์ 7 จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย จึงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อต้านภัยคุกคามต่างๆ และสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานวินโดวส์ 7 บริษัทฯ จึงพัฒนาเทคโนโลยี Windows Activation Technologies หรือ WAT เพื่อเพิ่มแนวทางปกป้องความปลอดภัยของผู้บริโภคให้สูงกว่าการตรวจสอบที่ผ่าน มา โดยตรวจสอบการติดตั้งซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ได้ถึง 70 แบบ และอัพเดทอัตโนมัติทุก 90 วัน เพื่อปกป้องผู้ใช้จากภัยคุกคามออนไลน์
หาก พบการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ไม่ถูกต้อง วินโดวส์จะแจ้งเตือนผู้ใช้งาน พร้อมเสนอวิธีแก้ปัญหา ในกรณีที่ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ไม่ใช่ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ ระบบจะมีข้อความเตือนไปยังเครื่องพีซีให้ผู้ใช้ทราบสถานะของซอฟต์แวร์ และวอลเปเปอร์บนหน้าจอเดสก์ท็อปจะเปลี่ยนเป็นสีดำ แต่จะไม่ลดประสิทธิภาพการทำงานของซอฟต์แวร์ โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ทางอินเทอร์เน็ต แอพพลิเคชัน และ Windows security updates ได้ตามปกติ ทั้งนี้ การอัพเดทโปรแกรม WAT สามารถใช้ได้บนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 ทุกเวอร์ชันทั่วโลก ผ่าน Windows Update

สำหรับผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสถานะซอฟต์แวร์ได้ที่ www.microsoft.com/genuine หากพบซอฟต์แวร์เป็นซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ สามารถสั่งซื้อซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ออนไลน์ได้ที่ www.microsoft.com/thailand/eshop ทั้งนี้ ผู้ใช้วินโดวส์ลิขสิทธิ์สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Microsoft Security Essentials ชุดป้องกันมัลแวร์เวอร์ชันภาษาไทยรุ่นล่าสุด เพื่อปกป้องเครื่องจากไวรัส สปายแวร์ และซอฟต์แวร์น่าสงสัย จากการพัฒนาพื้นฐานเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสำหรับกลุ่มธุรกิจ โดยดาวน์โหลดได้จาก www.microsoft.com/security_essentials

ข่าวจากไทยรัฐออนไลท์ วันที่ 13 เมษายน 2553

10 เมษายน 2553

ยู ทูบดีไซน์ใหม่ดึงผู้ใช้ให้ดูคลิปนานขึ้น

หลังจากเมื่อวานที่ทางเว็บไซต์ arip ได้รายงานข่าวการปรับโฉมโฮมเพจของทวิตเตอร์ (Twitter) กันไปแล้ว ล่าสุดทางกูเกิ้ล (Google) ได้มีการปรับดีไซน์ของยูทูบ (YouTube) ตามมาอีกราย เป้าหมายท้าชนทีวีด้วยการทำให้ดีไซน์ใหม่สามารถดึงผู้ใช้ให้ชมคลิปบ นเว็บไซต์นานขึ้น โดยพยายามทำให้ผู้ใช้ได้พบกับวิดีโอที่ต้องการรับชมด้วยการพิจารณาจากพื้น ฐานของสิ่งที่พวกเขารับชมก่อนหน้านี้ หรือที่เคยเลือกไว้ว่าชอบ

เมื่อวานนี้ ยูทูบได้ปรับปรุงดีไซน์ และคุณสมบัติการทำงานใหม่ โดยเฉพาะหน้าเว็บที่ใช้รับชมวิดีโอ หรือ watch page ซึ่งเป็นหน้าเว็บที่ผู้ใช้คลิกเพื่อดูวิดีโอนั้นๆ ยูทูบกล่าวว่า บางเวอร์ชันของหน้าเว็บนี้เคยมีสถิติการเปิดดูสูงสุดถึง 1 พันล้านครั้งภายในหนึ่งวัน ดังนั้นการปรับแต่งครั้งใหม่นี้เป้าหมายสำคัญจึงอยู่ที่ความพยายามทำให้ผู้ ชมดูคลิปมากขึ้น และนานขึ้นกว่าเดิม 

สำหรับการปรับแต่งหน้าเว็บ ดังกล่าวจะสังเกตได้ว่า มันดูเป็นระเบียบเรียบง่ายขึ้นกว่าเดิมที่เต็มไปด้วยออปชันต่างๆ มากมาย ด้านบนหน้าจอจะเป็นช่องค้นหาขนาดใหญ่ถัดจากโลโก้ นั่นอาจหมายความว่า ยูทูบเป็นเว็บไซต์ทีมีการใช้ search มากเป็นอันดับสองรองจากกูเกิ้ล ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บไซต์วิดีโอแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนใหญ่ที่เห็นได้ชัดอีกประการหนึ่งก็คือ ด้านขวาของหน้าเว็บที่แต่เดิมจะมีรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับวิดีโอที่กำลังรับชมมาเป็นรายการวิดีโอคลิปแนะนำแทน ซึ่งคลิปที่ถูกคัดเลือกด้านข้างนี้จะมีกลไกการเลือกที่มุ่งเน้นให้ผู้ชมสนใจ ที่จะคลิกดูคลิปต่อเนื่องมากขึ้น

"เราต้องการนำเสนอวิดีโอที่น่าสนใจให้ ผู้ใช้มากขึ้น พร้อมทั้งปรับแต่งหน้าเว็บสำหรับการรับชมหลายๆ คลิปมากกว่าที่จะเข้ามาชมแค่คลิปเดียว" Shiva Rajaraman ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ที่ยูทูบ กล่าว เชน ถ้าผู้ใช้ดูคลิปมิวสิควิดีโอ ยูทูบก็จะไปค้นหามิวสิควิดีโอทีเกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความสนใจให้ผู้ ใช้ยังคงคลิกเพื่อชมคลิปต่อไป ไม่ใช่ดูจบแล้วก็ไปเลยอย่างที่ผ่านมา "เราสร้างออปชันสำหรับการรับชมคอนเท็นต์เป็นช่วงเวลา 15, 20 และ 30 นาที ผู้ใช้แค่นั่งแล้วคลิกปุ่ม Next, Next, Next เราอยากให้ผู้ใช้เลิกดูเนื่องจากพวกเขาไม่มีเวลาแล้วมากกว่าที่เป็นเพราะไม่ มีอะไรจะดู"

ดีไซน์ใหม่ของยูทูบยังได้เปลี่ยนระบบการโหวตจาก เดิมให้ดาวเป็นชอบ หรือไม่ชอบ (Like or disklike ใช้ไอคอนหัวแม่โป้งชี้ขึี้น หรือลง) แทน ซึ่งนอกจากจะง่ายแล้ว ข้อมูลนี้ยังช่วยให้เดาใจสำหรับคลิปที่ผู้ใช้น่าจะชอบดูได้แม่นยำขึ้นอีก ด้วย ก่อนหน้านี้ทางยูทูบได้ทดลองเปิด watch page ให้ผู้ใช้ได้ทดลองเมื่อเดือนมกราคม แต่ไม่ใช่ทุกคน ผลปรากฎว่า ได้ผลลัพธ์ความพอใจที่ดีมาก รายการวิดีโอแนะนำที่ปรากฎข้างขวาช่วยเพิ่มจำนวนคลิปที่รับชม 6% ในขณะที่ส่วนคอมเมนต์ และเรทติ้งช่วยให้ผู้ใช้กลับมายังเว็บไซต์เป็นประจำด้วยสถิติที่สูงขึ้น 7% ผลสำเร็จจากการเริ่มต้นแค่นี้ก็ถือว่าดีแล้ว แต่หากจะวิ่งไล่ทีวีทีผู้ชมเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงต่อวันกับยูทูบ 15 นาทีต้องถือได้ว่ามันยังห่างไกลกันมากทีเดียว

ข่าวจาก www.arip.co.th วันที่  1 เมษายน 2553

09 เมษายน 2553

ชำแหละ!!! iPad ให้เห็นกันหมดเปลือก

ขณะที่ใครหลายๆ คนเพิ่งได้มีโอกาสสัมผัส และชื่นชมไอแพด (iPad) มือสังหารอย่าง iFixit ไม่รอช้า คว้าไอแพดมาชำแหละให้เห็นไส้ในกันก่อนใครอีกแล้วครับท่าน โดยขั้นตอนการถอดชิ้นส่วนของไอแพดมีประมาณ 28 ขั้นตอน ซึ่งนอกจากภายนอกที่มีความสวยงามแล้ว คุณยังจะได้เห็นการออกแบบภายในทีงดงามไม่แพ้กันอีกด้วย

 มีเรื่องเล่าว่า สตีฟ จอบส์ เคยสั่งให้วิศวกรที่ออกแบบแผงวงจรหลักให้กับเครื่องแมคไปออกแบบใหม่ เนื่องจากมันดูไม่สวย ด้วยความที่เป็น perfectionist ของจอบส์ที่มองว่า ผลิตภัณฑ์ของ Apple ต้องสวยงามทั้งภายนอก และภายใน ตลอดจนเข้าใจง่ายตั้งแต่ขั้นตอนการแกะกล่องมองเห็นผลิตภัณฑ์เลยด้วยซ้ำ ว่าแต่รู้สึกจะนอกเรื่องไปไหนแล้วเนี่ย ล่าสุด iFixit บริษัทผู้ให้บริการซ่อม Gadget สารพัดชนิด ได้ฤกษ์เบิกชัยในการชำแหละไอแพดวันที่มันวางตลาด ซึ่งภายในมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้ครับ


  • ส่วนแสดงผลและแผงวงจรที่ติดตัวถังด้านหลังมี น้ำหนักเท่าๆ กันคือ 350 กรัม ทำให้น้ำหนักของตัวเครื่องเกิดความสมดุลย์ 50/50 ไม่ใช้หนักข้าง หน้า หรือข้างหลังเครื่อง เห็นไหมว่า แอปเปิ้ลให้ความใส่ใจในเรื่องของการออกแบบผลิตภัณฑ์ขนาดไหน
  • จอ LCD ใช้ LG และหน่วยความจำ NAND ใช้ Samsung Electronics
  • มุมบนขวา ด้านในของตัวเครื่องมีพื้นที่ว่างอยู่สำหรับเครื่องที่ใช้ Wi-Fi เข้าใจว่า น่าจะเป็นตำแหน่งทีใส่ชิปเซต 3G สำหรับเวอร์ชันที่กำลังจะออกตามมา 
  • แบตเตอรี่ 2 ก้อนเป็นส่วนที่กินพื้นที่ภายในเครื่องมากที่สุด มันให้แรงดัน 3.75 โวลต์ 24.8 วัตต์-ชั่วโมง โดยการเปรียบเทียบแล้ว iPhone 3GS ใช้ 4.51 วัตต์-ชั่วโมง ในขณะที่ MacBookAir จะใช้ 40 วัตต์-ชั่วโมง น้ำหนักแบตฯของ iPad อยู่ที่ 148 กรัม (หนักกว่า iPhone 3GS ทั้งเครื่อง 13 กรัม)



  • ตัวแผงวงจรของ iPad ใช้พื้นที่ภายในเครื่องน้อยมาก ดูจากภาพถ่ายแล้ว ขนาดมันน่าจะใหญ่กว่ามือผู้ใช้โดยเฉลี่ยเล็กน้อยเท่านั้น
  • iPad มีหน่วยความจำ RAM 512MB


  • ชิป Wi-Fi 802.11n และ Bluetooth ใช้ของ Broadcom ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าที่ใช้ใน iPhone
  • เสาอากาศ Wi-Fi จะอยู่ด้านหลังโลโก Apple ของฝา iPad ซึ่งจะคล้ายๆ กับเสาอากาศที่ใช้ใน iMac
ยังมีรายละเอียด และความสวยงามอีกมากมายที่คุณผู้อ่านสามารถเข้าไปชมได้อย่างละเอียดทุกขั้น ตอนในเว็บไซต์ iFixit ครับ


ข่าวจาก www.arip.co.th วันที่ 4 เม.ย. 2553

16 มีนาคม 2553

Intel ออก SSD เร็วกว่าฮาร์ดดิสก์ 4 เท่า

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อินเทล (Intel) ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ X25-V Value SATA SSD โซลิดสเตทไดรฟ์ เพื่อใช้กับเน็ตบุ๊ก โน้ตบุ๊ก และเดสก์ทอป ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการบู๊ตโอเอสไปจนถึงการเปิดโปรแกรมใข้งานต่างๆ โดยมีความจุ 40 GB สนนราคา 125 เหรียญฯ หรือประมาณ 4,100 บาท

ทั้งนี้ภายใน X25-V SSD จะใช้เทคโนโลยีการผลิตชิปหน่วยความจำแฟลชที่ 34 นาโนเมตร ( รองรับการใช้งานได้นาน 1.2 ล้านชั่วโมง ) โดยผลลัพธ์ที่ได้ทำให้มันมีประสิทธิภาพความเร็วเป็น 4 เท่าของฮาร์ดดิสก์ทั่วไป (ความเร็วรอบ 7,500 RPM) หรือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของระบบคอมพิวเตอร์ให้ดีขึ้นถึง 43% Troy Winslow ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ SSD ของ Intel กล่าว


Winslow ยังกล่าวอีกด้วยว่า X25-V สามารถใช้เป็นไดรฟ์หลักสำหรับบู๊ตเครื่อง และด้วยความจุ 40GB มันมากพอที่จะติดตั้ง Windows 7 ตลอดจน Microsoft Office และแอพพลิเคชันเกมส์ต่าง ๆ ได้ "เราพยายามจะบอกกับผู้บริโภคว่า มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่สุดยอดเมื่อเทียบกับราคา 125 เหรียญฯ ในขณะที่ความจุมากพอที่จะใช้เก็บโอเอส และแอพพลิเคชันต่าง ๆ ได้" เขากล่าว X25-V เหมาะกับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการทำงานของเครื่อง แทนการใช้ฮาร์ดดิสก์แบบเดิมๆ ในขณะเดียวกันราคาของมันก็จัดอยู่ในระดับทีไม่แพงอีกด้วย


ข่าวจาก www.arip.co.th วันที่ 16 มีนาคม 2010

15 มีนาคม 2553

ยูเอสบีช่วยลบภาพโป๊ในฮาร์ดดิสก์


เรามาติดตามข่าวสารเบาๆ กันบ้างดีกว่า ว่าแล้วเราไปทำความรู้แก็ดเจ็ต (Gadget) ชิ้นนี้ดีกว่าครับ "Porn Detection Stick" หรืออุปกรณ์ยูเอสบีตรวจจับภาพลามกโป๊อนาจารนั่นเอง โดยมันสมารถสแกน และลบไฟล์เหล่านี้ออกจากฮาร์ดดิสก์ได้โดยอัตโนมัติ ในขณะที่มีความผิดพลาดต่ำมาก ไม่น่าเชื่อว่า จะมีการคิดค้นแก็ดเจ็ตอย่างนี้ออกมาได้ คุณผู้อ่านคงอยากรู้สิครับว่า อุปกรณ์ยูเอสบีตัวนี้มันมีหลักการทำงานอย่างไร

ปฏิเสธไม่ได้ว่า อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางสื่อที่เปิดกว้างทั้งสิ่งที่ดี และไม่เหมาะสม โดยเฉพาะภาพโป๊อนาจารต่างๆ ที่พบได้เกลื่อนเน็ต ตลอดจนในฮาร์ดดิสก์ของคุณ :p จะด้วยความตั้งใจ หรือไม่ก็ตาม หากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไม่ได้ใช้คนเดียว หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์ของบุตรหลาน มันอาจมีไฟล์เหล่านี้ซุกซ่อนอยู่ในมุมใดมุมหนึ่งของฮาร์ดดิสก์ก็ได้ ซึ่งหากจะค้นหา เพื่อทำลายก็คงไม่ง่ายนัก ข่าวดี (หรือข่าวร้าย?) ก็คือ คุณสามารถใช้ตัวช่วยที่ชื่อว่า Porn Detection Stick ได้ครับ
สำหรับเจ้าอุปกรณ์ทีว่านี้ เพียงแค่เสียบมันเข้ากับพอร์ตยูเอสบีของคอมพิวเตอร์ต้องสงสัยว่าจะมีภาพโป๊ ซ่อนอยู่ ดับเบิ้ลคลิกโปรแกรม PornDetectionStick.exe ที่อยู่ภายใน เพื่อให้มันทำการสแกนฮาร์ดดิสก์ค้นหาภาพลามกอนาจารทั้งหมด แล้วจัดการลบทิ้งซะ!!! หลักการทำงานของมันก็คือ โปรแกรมที่อยู่ในอุปกรณ์จะใช้อัลกอริธึมในการวิเคราะห์ภาพที่มีโทนสีเนื้อ รูปร่าง ส่วนโค้งเว้า ตลอดจนใบหน้า และส่วนต่างๆ ของร่างกายแยกกันจากในไฟล์ภาพที่มันพบ เพื่อพิสูจน์ทราบว่า ภาพนั้นเป็นภาพโป๊ หรือไม่? Porn Detection Stick สามารถสแกนได้มากกว่า 70,000 ภาพภายในหนึ่งชั่วโมงครึ่งโดยผิดพลาดแค่ 0.0006% เท่านั้น สนนราคาของมันอยู่ที่ 98.95 เหรียญฯ หรือประมาณ 3,400 บาท


ข่าวจาก www.arip.co.th วันที่ 5 มีนาคม 2010

13 มีนาคม 2553

ฮาร์ดดิสก์บิ๊กไซส์ไม่เหมาะกับ Win XP

แม้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 จะเป็นโอเอสที่ขายดี และมีอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ใช้หลายคนที่ยังคงมีเหตุผลที่จะใช้ชีวิตอยู่บน Windows XP ต่อไป โดยเฉพาะเรื่องของความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่ใช้ แม้มันจะมีอายุล่วงเลยมานับสิบปีแล้วก็ตาม ล่าสุดผู้ใช้ XP อาจจะประสบกับปัญหากับการใช้ฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่ที่มีการขยับคุณสมบัติ บางอย่าง

ประเด็นก็คือ ฮาร์ดดิสก์รุ่นต่อไปจะมีขนาดของเซ็คเตอร์ (Sector) หรือพื้นที่บันทึกข้อมูลที่แบ่งย่อยจากรอบวงการเขียนข้อมูลบน จานดิสก์ (เรียกว่า Track) ที่มีการขยับขนาดขึ้นเป็น 4K ในขณะฮาร์ดดิสก์ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันก่อน Windows XP จะมีขนาดสูงสุด 512B เท่านั้น เหตุผลที่ต้องเพิ่มขนาดของเซ็คเตอร์แบบก้าวกระโดดก็เนื่องจาก ขนาดของเซ็คเตอร์ที่ 512B เหมาะกับฮาร์ดดิสก์ที่มีขนาด 10-100GB แต่ปัจจุบันฮาร์ดดิสก์ทั่วไปก็จะมีความจุตั้ง 500GB เข้าไปแล้ว โดยสูงสุดอยู่ที่ 2TB นั่นหมายความว่า มันถึงเวลาที่จะต้องขยับขนาดของเซ็คเตอร์ให้ได้สมรรถนะการทำงานที่สอดคล้อง กับความต้องการใช้ขนาดความจุที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลแล้ว



และนั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ฮาร์ดดิสก์ต้องขยายขนาดเซ็คเตอร์เพิ่มขึ้นเป็น 4K เนื่องจากมันหมายถึงการจัดการกับพื้นที่ส่วนย่อยที่ใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพความเร็วในการทำงานโดยรวมเร็วขึ้นด้วย (เปรียบเทียบการทำงานของหัวอ่าน/เขียนครั้งละ 512B กับ 4K ก็จะเห็นได้ทันทีว่า มันดีกว่าอย่างไร?) สำหรับผู้ใช้ Windows XP ปัญหาที่พบก็คือ ในขณะที่ฮาร์ดดิสก์ที่ใช้มีขนาดเซ็คเตอร์ 4K แต่ XP ทำงานกับเซ็คเตอร์ทีมีขนาด 512B ดังนั้น มันก็แค่ทำให้มองเห็นเซ็คเตอร์เป็น 512B โดยในการอ่านข้อมูล ผู้ใช้จะไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง แต่หากเป็นการเขี่ยนข้อมูลมันจะช้าลงถึง 10% เป็นอย่างน้อย เนื่องจากโหมดการจำลองการทำงานจะต้องมีการเขียนข้อมูล 2 ครั้ง ซึ่ีงคงไม่คุ้มกับการลงทุนฮาร์ดดิสก์ทีมีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อแลกกับการทำงานช้าลง วิธีแก้ปัญหาก็ง่ายนิดเดียว นั่นก็คือ อัพเกรดเป็น Windows 7 ไปเลย แต่มันก็อาจจะใช่เรื่องที่ทุกคนทำได้ รายงานข่าวนี้จึงเป็นแค่การเตือนถึงสิ่งที่กำลังจะมาในปี 2011 นี้ ซึ่งคุณยังมีเวลาเตรียมพร้อมสำหรับการอัพเกรดโอเอส มันคงถึงเวลาต้องเปลียนแล้วกระมัง


ข่าวจาก www.arip.co.th วันที่ 12 มีนาคม 2010

12 มีนาคม 2553

ซัมซุงเปิดตัวทีวี 3 มิติ เตรียมวางขายอังกฤษสิ้นเดือนนี้


ซัมซุงเปิดตัวโทรทัศน์ 3 มิติ ซึ่งทำให้คอหนังสามารถรับชมภาพยนตร์อย่าง 'อวตาร' หรือ 'อลิซ อิน วันเดอร์แลนด์' ด้วยประสบการณ์เดียวกับที่ได้รับในโรงหนัง 3 มิติ..

สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ว่า ซัมซุง บริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ ได้เปิดตัวโทรทัศน์ 3 มิติ ซึ่งทำให้คอหนังสามารถรับชมภาพยนตร์อย่าง 'อวตาร' หรือ 'อลิซ อิน วันเดอร์แลนด์' ด้วยประสบการณ์เดียวกับที่ได้รับในโรงหนัง 3 มิติ

สำหรับ สนนราคาเริ่มต้นของโทรทัศน์ 3 มิติจากซัมซุงนั้น อยู่ที่ 1,300 ปอนด์ (ราว 64,000 บาท) สำหรับรุ่น LED 32 นิ้ว และสำหรับขนาด 65 นิ้วนั้น มีราคาไม่เกิน 5,000 ปอนด์ (ราว 245,000 บาท) อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่สนใจรับชมหนัง 3 มิติที่บ้าน ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกราว 500 ปอนด์ เพื่อแลกกับ เครื่องเล่น Blu-ray DVD และแว่นตาอิเล็กทรอนิกส์

ทั้ง นี้ โทรทัศน์ 3 มิติของซัมซุง ถูกติดตั้งฮาร์ดแวร์ภายใน ซึ่งผู้ผลิตอ้างว่าจะช่วยเปลี่ยนรูปแบบภาพ 2 มิติมาตรฐาน ให้เป็น 3 มิติได้ ส่วนแว่นตาที่ขายแยกนั้น ก็มีลักษณะไม่เหมือนกับแว่นในโรงภาพยนตร์ 3 มิติ ที่มีแค่แผ่นสีแดงกับเขียวเท่านั้น เนื่องจากมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยในการเชื่อมภาพในจอให้กลายเป็น 3 มิติ คาดว่าชุดโทรทัศน์นี้จะวางขายในอังกฤษช่วงสิ้นเดือนนี้.


ข่าวจาก ไทยรัฐออนไลท์ วันที่ 12 มีนาคม 2010

11 มีนาคม 2553

Powermat ชาร์จไฟไร้สาย


เป็นสิ่งที่เราทำกันทุกคนหลังการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเล่นMp3 โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ก็ต้องมานั่งชาร์จไฟเพื่อใช้ต่อในวันข้างหน้า แต่บ้างคนที่มีอุปกรณ์เหล่านี้ติดตัวเยอะ ก็จะเซงกับภาพที่มีปลั๊กไฟเสียบกันเต็ม และสายโยงใยไปมา ซึ่งบางครั้งหากวางกันไม่เป็นระเบียบก็อาจจะเดินสะดุดสาย เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุที่ไม่ถึงประสงค์ตามมาอีกมากมาย



ซึ่งวันนี้ Powermat เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยแก้ปัญหาและภาพ เดิมๆ ของคุณ^^ (ยังกะมาขายของ) มันคืออุปกรณ์ที่ชาร์จแม่เหล็กในการชาร์จพลังงานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทำให้เราไม่ต้องมานั่งเสียบปลั๊กที่ชาร์ตเยอะๆ เหมือนแต่ก่อน เพราะเราสามารถใช้ Powermat ในการชาร์จอุปกรณ์ที่หลายตัวเช่น Blackberry, iPod nano, PSP และ Nintendo DS เป็นต้น


โดยเจ้า Powermat นี้มาพร้อมกับแผ่นรองชาร์จ และซองใส่ (เป็นอุปกรณ์ที่รับการกระตุ้นสัญญาณไฟฟ้าด้านหลังซอง) และชุด Conection สำหรับอุปกรณ์บ้างส่วน การใช้งานก็ง่ายมากครับ แค่เพียงเสียบปลั๊กแผ่นรองชาร์จ และนำอุปกรณ์ที่ต้องการมาใส่ซองรับสัญญาณ และนำมาวางบนแผ่นรอง เพียงแค่นี้อุปกรณ์ต่าง ก็จะได้รับการชาร์จไฟแล้ว โดยระบบจะตัดไฟเมื่อชาร์จเต็มให้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเจ๋งมากๆ ครับ แบตเตอรี้จะได้ไม่เสื่อมเร็วเน๊าะ^^

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือวีดีโอตัวอย่าง สามารถรับชมได้ที่นี้ครับ Click
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Powermat



ข่าวจาก www.techxcite.com

10 มีนาคม 2553

วางแผนเตรียมตัว รับรู้เรื่อง USB 3.0


เพื่อนๆ คงจะได้ยินข่าวแววๆ มาแล้วบ้างว่า ตอนนี้ USB ของปัจจุบันนี้ มีถึง 3.0 กันแล้ว แต่ก็ได้ยินแค่ข่าวว่าจะมา แต่ก็ไม่รู้ราคาว่ามันเท่าไหร่ มาเมื่อไหร่ กันใช่ไหมล่ะครับ วันนี้ผมจะนำข้อมูลอัพเดทเกี่ยวกับ USB 3.0 มาให้ทราบกันเพิ่มเติม โดยตอนแรกผมคิดว่าหากจะใช้ USB 3.0 ก็ต้องซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่แน่ๆ เลย เพราะว่าคงจะไม่ใช้งานโดยนำ USB 3.0 มาเสียบต่อ USB 2.0 หรอกเน๊อะ แต่วันนี้ไปเจอของต่างประเทศก็เลยอัพเดทให้เพื่อนๆ ชาว Xcite ให้ทราบ กันครับ USB 3.0 ที่เห็นในภาพนี้เป็นรูปแบบ ตัวเสียบเพิ่มในคอมพิวเตอร์ในแบบ PCIe ซึ่งจะเปิดตัวในอเมริกาในไม่นานนี้ โดยคิดว่าน่าจะมาแทนที่ USB 2.0 และ FireWire 400 ซึ่งเหตุผลที่นำมาใช้แทนนั้น แทบจะไม่ต้องพูดถึงว่าดีแค่ไหน เพราะว่าดีกว่าทุกอย่างครับ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลที่เร็วกว่าถึง 10 เท่า ซึ่งมีความเร็วมากๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถดาวน์โหลด หนังระดับ HD หรือ สื่อมัลติมีเดียอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว


USB 3.0 PCIe เป็นอุปกรณ์เสียบเสริมในคอมพิวเตอร์ โดยเปิดตัวราคาอยู่ที่ $79.99 (ประมาณ 2,800 บาท) แต่เพื่อนๆ อย่าคิดว่าอย่างนี้คอมพิวเตอร์พกพา หรือ โน๊ตบุ๊คก็หมดสิทธิล่ะสินี้ ไม่ จริงครับ เจ้าของผู้ผลิตได้เพิ่มทางแก้ไขให้แล้วโดยออกมาในรูปแบบ ExpressCard adapter ในรา $79.99 (ประมาณ 2,800 บาท)

ซึ่งกำหนดการเปิดตัว

เดือนเมษายน 2010 ใน Us

เดือนพฤษภาคม 2010 ใน แคนนาดา


ทั้งนี้ยังมีสาย USB SuperSpeed 3.0 Premium A-B Cable, 4ft $39.99 (ประมาณ 1,400 บาท) 8ft $49.99 (ประมาณ 1,750 บาท) และสาย SuperSpeed USB 3.0 Premium Micro-B Cable 4ft $39.99 (ประมาณ 1,400 บาท) 8ft $49.99 (ประมาณ 1,750 บาท) เพื่อช่วยให้การใช้งานของเรานั้นเต็มประสิทธิภาพอีกด้วยอีกด้วย



ข่าวจาก www.techxcite.com

09 มีนาคม 2553

2 ค่ายเกมดังเปิดตัวเกมใหม่รับปิดเทอม


เวลอฟ แง้มเกมใหม่ Grand Fisher เกมตกปลาแนวใหม่เกมเดียวของไทย ส่วนวินเนอร์เปิดโคลสเบตาเกมยิงแนว FPS Sci-Fi อย่าง ADay พร้อมกัน 9 มี.ค.นี้...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทเวลอฟ (ประเทศไทย) จำกัด มาแปลกแหวกแนวตลาดเกมที่กำลังแข่งกันเปิดเกมใหม่แทบทุกสัปดาห์เมื่อประกาศนำ เกม Grand Fisher เข้ามาให้บริการในเมืองไทย โดยเกม Grand Fisher ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่ได้รับความนิยมมากๆ แต่ช่วงปีหลังๆ กระแสเกมระดับ Hi-End ก็มีมาเยอะเหลือเกิน จึงทำให้กระแสของ Grand Fisher ค่อยๆ ตกลงไป แต่ในประเทศไทยก็ถือว่าเป็นเกมที่แปลกใหม่มากๆ เกมตกปลาเกมเดียวของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการกำหนดอะไรชัดเจนมา แต่คาดว่าน่าจะเปิดให้บริการในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน 2553 ทั้งนี้ Grand Fisher เป็นเกมแนว MMO fishhook ที่ยังไม่มีเกมส์แนวนี้ออกสู่ตลาดบนโลกออนไลน์มากนัก

รายงานข่าวแจ้ง ว่า แนวเกมก็มีความน่ารักสดใสของตัวละคร ให้น่าสนใจอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ระบบของเกมก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนมากจนเกินไป สเปกของเกมก็อยู่ในระดับพื้นฐานที่คอมทั่วไปสามารถเล่นได้ สรุปว่าใครที่ต้องการความแปลกใหม่ Grand Fisher เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย ระบบอื่นๆที่น่าสนใจ ได้แก่ ระบบตกปลาแบบปาร์ตี้ ระบบตลาดซื้อขายปลาแบบตลอด 24 ช.ม. ระบบกลางวันกลางคืนที่มีผลกับปลาและปลาบางชนิดจะมีในตอนกลางคืน ระบบ Quests ย่อย และ Quests เนื้อเรื่อง ระบบ Community หรือ กลุ่มประมง มีการแข่งเก็บคะแนนกลุ่ม ระบบ ไอเทมมอลล์ ซื้อไอเทมดีๆเด็ดๆ EXP คูณ คันเบ็ดแบบพิเศษ


รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทวินเนอร์ ออนไลน์จำกัด ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวเกมใหม่ เอเดย์ (ADay) ในบรรยากาศแบบชุ่มฉ่ำกันถ้วนหน้า กลางสระน้ำ ณ 72 เอกมัย พร้อมด้วยเสียงเพลงจากวงร็อกที่ปลุกเร้าอารมณ์บรรดาสื่อมวลชล ไม่ว่าจะเป็นนิตยสาร เว็บไซต์ต่างๆ ท่ามกลางอากาศที่แสนจะร้อนอบอ้าว กับสุดยอดเกม FPS Sci-Fi โดยภายในงานก็จะมีทั้งการโชว์ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น อาวุธแห่งโลกอนาคต หน่วยรบที่ทรงอนุภาพ รวมถึงระบบการเล่นที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการจะร่วมสงครามแห่งยุคอนาคตในช่วง โคลสเบตา คงจะได้รับข่าวดีอย่างแน่นอนเพราะทางวินเนอร์ ออนไลน์ พร้อมเปิดประตูมิติพาบรรดาเกมเมอร์ทะลุเวลาพร้อมกันในวันที่ 9 มี.ค.53 ทั้งนี้ติดตามรายละเอียดการขอรับ Activate Code ได้ทางหน้าเว็บไซต์ www.aday.in.th


ข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 9 มีนาคม 2553

30 มกราคม 2553

แอปเปิลเปิดตัวแท็บเล็ต "ไอแพด" แล้ว!!!

รายงานข่าวล่าสุด แอปเปิล (Apple) ได้ประกาศเปิดตัว "ไอแพด แท็บเล็ต" (iPad Tablet) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมันมีคุณสมบัติเป็นแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้ว ซึ่งตำแหน่งทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะอยู่ระหว่าง "ไอโฟน" (iPhone) และ "แม็คบุ๊ค" (MacBook) พร้อมกันนี้ยังได้แนะนำ "iBook Store" หน้าร้านเสมือนสำหรับอีบุ๊กด้วย

"ไอแพด" จะมีความหนาเพียง 0.5 นิ้ว และหนักแค่ 1.5 ปอนด์ (ประมาณ 680 กรัม) ใช้สำหรับท่องเว็บ อีเมล์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง เกมส์ และอีบุ๊ก คุณสมบัติโดยรวมจะคล้ายกับไอพอดทัช (iPod Touch) ที่มีขนาดใหญ่กว่า "เราตั้งใจทำให้ไอแพดเป็นทั้งเทคโนโลยี และศิลปะ" สตีฟจอบส์กล่าว "การรวมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน ทำให้เราได้คำตอบออกมาเป็นไอแพด"

กล่าวโดยสรุป ไอแพดจะสามารถรันแอพพลิเคชันทั้งหมดที่อยู่บนไอโฟน และไอพอดทัชได้ โดยไม่ต้องมีการปรับแต่งการทำงานแต่อย่างใด เพียงแค่ขยายหน้าจอเดิมเป็นสองเท่า มันมาพร้อมกับ iTunes และ App Store คีย์บอร์ดเสมือนสำหรับพิมพ์ และเมนูป๊อปอัพ สนับสนุนการเล่นวิดีโอไฮเดฟฯ เชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 802.11n และ Bluetooth 2.1+EDR ระบบเซ็นเซอร์ Accelerometer เข็มทิศ ลำโพง ไมโครโฟน และคอนเน็คเตอร์ขนาดมาตรฐาน(30 พิน)ของแอปเปิล


ภายในไอแพดจะใช้ชิป Apple A4 ความเร็ว 1GHz (เป็นชิพที่พัฒนาเอง) และมีหน่วยความจำแฟลชที่มีให้เลือกตั้งแต่ 16GB ถึง 64GB จอบส์อ้างว่า แบตเตอรี่ของมันสามารถทำงานได้นานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง และสแตนด์บายได้นานมากกว่าหนึ่งเดือน ไอแพดไม่มีสารพิษอย่างสารหนู BFR (Brominated flame retardant) ปรอท พีวีซี และสามารถรีไซเคิลได้แทบทุกชิ้น


ไอแพดสนับสนุนการใช้งานเป็น"อีบุ๊ก"ที่มาพร้อมกับร้านหนังสือออนไลน์ "ไอบุ๊กส์" (iBooks) นั่นหมายความว่า แอปเปิลตอนนี้มีร้านค้าออนไลน์ถึง 3 ร้านด้วยกันคือ แอพ สโตร์, ไอจูนส์ สโตร์ และไอบุ๊ก สโตร์ โดยไอแพดรองรับการเปิดไฟล์เอกสาร สเปรดชีต และพรีเซนเทชั่น (iWork ที่ได้รับการปรับแต่งให้ใช้งานบนไอแพด)



ในขณะที่ไอแพดมี Wi-Fi แต่ก็สามารถเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายไร้สาย 3G (ผ่าน AT&T) โดยขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของบริการ โดยหากเลือกใข้แบนด์วิดธ์ขนาด 250MB จะต้องเสียค่าบริการ 14.99 เหรียญฯต่อเดือน หรือประมาณ 500 บาท และแบบไม่จำกัดจะอยู่ที่ 29.99 เหรียญฯต่อเดือน หรือประมาณ 1,000 บาท (ถ้าเป็นทรูจะคิดเท่าไรเนี่ย?) ซึ่ง iPad 3G ทุกเครื่องจะปลดล็อค (ไม่ผูกติดกับโอเปอเรเตอร์) และใช้ GSM microSIM card สำหรับข้อตกลงการใช้งานในประเทศต่างๆ จะประกาศในช่วงเดือนมิถุนายน หรือกรกฎาคม สนนราคาของไอแพดจะอยู่ระหว่าง 499 เหรียญฯ (ประมาณ 16,500 บาท) และเพิ่มขยายคุณสมบัติได้จนถึงราคา 829 เหรียญฯ (ประมาณ 27,500 บาท) ขึ้นอยู่กับเวอร์ชันที่เลือก ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

  • 16GB Wi-Fi อย่างเดียว: $499
  • 16GB Wi-Fi + 3G: $629
  • 32GB Wi-Fi only: $599
  • 32GB Wi-Fi + 3G: $729
  • 64GB Wi-Fi อย่างเดียว: $699
  • 64GB Wi-Fi + 3G: $829
นอก จากนี้ไอแพดยังจะมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมทีมีลักษณะเป็น"ด็อคกิ้ง"ที่มี ฟังก์ชันคล้ายกรอบรูป พร้อมด้วยคีย์บอร์ด (สามารถเปลี่ยนไอแพดให้กลายเป็นแอคบุ๊ก) และเคส อย่างไรก็ตาม สตีฟจอบส์ไม่ได้แจ้งถึงกำหนดวางตลาดของไอแพดแต่อย่างใด
*อัพเดต: กำหนด วางตลาด iPad ทีมาพร้อม Wi-Fi อย่างเดียวจะวางตลาดในช่วงปลายเดือนมีนาคม ศกนี้ ส่วนเวอร์ชัน Wi-Fi กับ 3G จะเป็นในช่วงเดือนเมษายน



ข่าวจาก www.arip.co.th วันที่ 28 มกราคม 2553

11 มกราคม 2553

'5เกมสีขาว' บันเทิงราคาถูกไม่เป็นพิษเป็นภัยกับเยาวชน


เกมออนไลน์ ถือเป็นอีกหนึ่งความบันเทิงในยุคดิจิตอล ด้วยความหลากหลายของเนื้อหาและความสามารถในการเข้าถึง ทำให้ผู้คนทุกเพศทุกวัยเลือกผ่อนคลายกับเกมสารพัดรูปแบบ ตามความชอบความถนัดโดยปราศจากข้อจำกัด ทั้งเกมประเภทแคชชวล (Casual) หรือ MMORPG (Massively Multiplayer Online Role Playing Game) เกมแฟลช (Flash) และอื่นๆ จากหลากค่ายหลายผู้ผลิตที่ต่างสรรหามานำเสนอ และสร้างความแปลกใหม่สู่ตลาดเกมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความโดดเด่นของรูปแบบการเล่น และเนื้อหาภายในเกม

เพื่อแสดง ความรับผิดชอบต่อเยาวชนและสังคม ปัจจุบัน บรรดาค่ายเกมและผู้ผลิตจึงควบคุมและแนะนำอายุผู้เล่นที่เหมาะสม โดยการจัดอันดับความรุนแรงของเกม เช่นเดียวกับการชมรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม คงต้องยอมรับว่าเกมที่มีความรุนแรงหรือมีความไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศและเนื้อหาความรุนแรงปรากฎอยู่ภายในเกม ก็ยังสามารถสร้างรายได้และครองใจเกมเมอร์ได้เป็นจำนวนไม่น้อย

ขณะเดียวกัน "เกมสีขาว" ที่มีการนำเสนออย่างเหมาะสมและแนะนำว่าเหมาะสำหรับทุกวัย ปลอดภัยสำหรับเยาวชนนั้น ก็มีอยู่ไม่น้อย อาทิ



ออดิชัน ออนไลน์ แดนซ์ แบทเทิล (Audition Online Dance Battle) เกมเต้นแนว MMORPG สัญชาติเกาหลี ที่บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำมาเปิดให้บริการในประเทศไทย เมื่อปี 2549 ถือเป็นเกมอันดับต้นๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายตั้งแต่เปิดให้บริการจนกระทั่งปัจจุบัน ด้วยยอดผู้เล่นกว่า 12 ล้านไอดี (ID) โดยล่าสุด เอเซียซอฟท์ได้พัฒนาเวอร์ชันใหม่เป็น ออดิชัน ซีซั่น 2 (Audition Season2) เพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการเล่นยิ่งขึ้น



เทลส์รันเนอร์ (Tales Runner) เกมออนไลน์แนวแฟนตาซีเรซซิ่ง ภายใต้หลังคา Rhaon Entertainment บริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ โดยมีบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการภายในประเทศไทย ภายในเกม ผู้เล่นต้องวิ่งแข่งกันภายในสนามประเภทต่างๆ พร้อมแก้ไขโจทย์ปัญหาภายในสนามที่นำนิทานชื่อดังทั่วโลกมาใช้ในการแข่งขัน




ปังย่า (PangYa) เกมกอล์ฟแนวแฟนตาซีออนไลน์ที่พัฒนามาจากเกมเพลย์สเตชั่น ซึ่งปัจจุบันมีเซิร์ฟเวอร์ใน 5 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ ยุโรป และไทย โดยมีบริษัท อินิทรี ดิจิตอล จำกัด เป็นผู้ให้บริการ ด้วยวิธีการเล่นและรูปแบบคล้ายการ์ตูน รวมถึง จุดเด่นในการแข่งขันแบบแมตซ์เพลย์ที่สามารถเล่นได้พร้อมกันตั้งแต่ 10-30 คน ในเวลา 15-50 นาที จึงทำให้ปังย่าได้รับความนิยมได้อย่างไม่ยากนัก



เครซี่ มอนส์ เรซซิ่ง (Crazy Mon Racing : CMR) เกมแข่งรถ 3 มิติ แนวแคชชวลจากบริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด ที่ร่วมพัฒนากับ วินดี้ซอฟท์ บริษัทพัฒนาเกมสัญชาติเกาหลี เน้นเล่นง่าย สนุกสนาน เหมาะกับทุกเพศทุกวัยที่ชื่นชอบเกมแนวแข่งรถ พร้อมตัวละครที่ถูกดัดแปลงมาจากนิทาน รวมถึง สนามที่ถูกออกแบบในสไตล์แฟนซี




ฮัลโหล คิตตี้ ออนไลน์ (Hello Kitty Online) เกมแนว Difference MMORPG จากค่ายซี ทูวิชั่น ภายใต้แนวคิด Hello Fun Hello Friend Hello Kitty Online ที่เตรียมเปิดให้สาวกซานริโอ (Sanrio) ได้สนุกกับการตะลุยด่าน เก็บเลเวล และปฏิบัติตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายในเกม ผ่านคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนซานริโอ อาทิ ฮัลโหลคิดตี้ มายเมโลดี้ เกโร๊ะ แบดแบดมารุ ฯลฯ พร้อมเชื่อมต่อสังคมออนไลน์ร่วมกับเพื่อนและผู้เล่นอื่นๆ ภายในเกม ประมาณช่วงต้นเดือน มี.ค.นี้

ขณะที่ ผู้พัฒนาและผู้ให้บริการเกมต่างหันมาสร้างสรรค์ พร้อมนำเสนอความบันเทิงราคาประหยัดผ่านเนื้อหาที่เหมาะสม ปราศจากความรุนแรง เพื่อดึงเยาวชนและผู้เล่นบนโลกเสมือนกลับสู่เส้นทางที่ดี แต่ก็เป็นแค่เพียงทางเลือกหนึ่งเท่านั้น เพราะเกมที่รุนแรงและมีเนื้อหาไม่เหมาะสมก็ยังคงวนเวียนอยู่ในตลาด และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ผู้เล่นยังคงต้องการ...






ข่าวจาก ไทยรัฐออนไลท์ วันที่ 9 มกราคม 2553

10 มกราคม 2553

ปาล์มเผยโฉมมือถือสร้าง Wi-Fi hotspots ได้



ในงาน "คอนซูมเมอร์ อีเล็กโทรนิกส์ โชว์" ปีนี้ ค่าย ปาล์ม เตรียมเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่น "พรี" และ "พิกซี่" ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่และเป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถสร้าง Wi-Fi hotspots เพื่อให้แล็ปท็อปรวมถึงมือถือใช้งานได้..

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันที่ 8 ม.ค. โทรศัพท์มือถือรุ่น "พรี พลัส" และ "พิกซี่ พลัส" จะวางขายในวันที่ 25 ม.ค. นี้ โดยจะรองรับเครือข่ายของ เวอริซอน ไวร์เลส ในสหรัฐอเมริกา สำหรับราคาเครื่อง ปาล์ม จะประกาศให้ทราบในงาน "คอนซูมเมอร์ อีเล็กโทรนิกส์ โชว์"ที่ลาสเวกัส

สำหรับคุณสมบัติและแอ ปพลิเคชั่นใหม่ที่จะถูกเพิ่มเติมเข้ามาซึ่งโดดเด่นที่สุด ได้แก่ การสร้างจุดปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ส่วนตัว ที่สามารถแชร์สัญญาณ 3G ของ เวอริซอน ไปสู่อุปกรณ์อื่นๆได้ 5 เครื่อง ทำให้เป็นโทรศัพท์เครื่องแรกของโลกที่มีคุณสมบัติดังกล่าว นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกวีดีโอ และส่งอีเมลล์ หรืออัพโหลดลง ยูทูปและเฟซบุค ได้ในทันทีอีกด้วย.


ข่าวจาก ไทยรัฐออนไลท์ วันที่ 8 มกราคม 2553

08 มกราคม 2553

10 แก็ดเจ็ทแห่งปีในสายตาต่างชาติ


1. Motorola Droid

โทรศัพท์มือถือจากโมโตโรลาที่ตั้งใจจะนำมาตีตลาดสมาร์ทโฟน ด้วยระบบทัชสกรีนที่เฉียบคมและแม่นยำ และคีย์บอร์ดคุณภาพสูง โมโตโรลาฝากความหวังไว้กับ Droid ไว้มาก โดยเป็นโทรศัพท์ตัวแรกที่ใช้ Android 2.0

2. The Nook

อุปกรณ์อ่าน อี-บุ๊ค จาก บาร์นส์ แอนด์ โนเบิล นี้ สนนราคา เริ่มต้นที่ราว 8,700 บาท ลูกเล่นบริเวณหน้าจอ และรอบๆ ตัวเครื่อง เช่น ทัชสกรีนสีด้านข้างยิ่งช่วยให้ นุค ดูสวยงามยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับไว-ไฟ, เอสดี การ์ด รวมถึงการอ่านไฟล์พีดีเอฟ ถือเป็นการพลิกโฉมหน้าวงการสำหรับนักอ่านอย่างแท้จริง

3. Dyson Air Multiplier

นับตั้งแต่ ชูเลอ สกาตส์ ประดิษฐ์พัดลมใบพัดคู่แบบดั้งเดิมขึ้นมาเมื่อ 127 ปีที่แล้ว จนถึงทุกวันนี้การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของพัดลม ส่วนใหญ่ยังเกิดขึ้น น้อยมาก จนกระทั่ง เจมส์ ดายสัน ได้ทำสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ขึ้นมา นั่นคือ พัดลมไร้ใบพัด ที่สามารถเพิ่มความเร็วของอากาศได้ถึง 15 เท่า ด้วยการ สร้างกระแสอากาศจากการดูดอากาศเข้าไปในฐาน แล้วปล่อยออกมาจากกรอบรูปวงกลม

4. iPhone 3GS

ไอโฟนตัวใหม่จากค่ายแอปเปิลนี้ พัฒนาจากตัวเก่าไปมากทั้งความเสถียร และความเร็วในการประมวลผล ทำให้การเรียกใช้งานโปรแกรมต่างๆ ในเครื่องนั้นเป็นไปอย่างลื่นไหล รวมถึงคุณภาพของกล้องที่มีความละเอียดเพิ่มขึ้นและสามารถถ่ายวีดีโอได้

5. Canon EOS-1D Mark IV

กล้องความละเอียด 16 ล้านเมกะพิกเซล จากแคนนอน มาพร้อมกับความสามารถในการถ่ายวีดีแบบHD ที่ 30 เฟรมต่อ วินาที และมี 45 จุดโฟกัส นอกจากนี้ยังสามารถที่จะถ่ายได้ที่ ISO 102,400 ช่วยให้เก็บรายละเอียดในที่มืดได้เป็นอย่างดี รวมถึงถ่ายวีดีโอแบบฟูลเฟรมที่ขนาดหน้าจอ 1,080 พิกเซล

6. Dell Adamo XPS

ความบางของ Adamo XPS ที่ขนาด 0.41 นิ้ว ช่วยสร้างความสะดุดตา ให้กับ แล็ปท็อปจาก Dell เป็นอย่างมาก ตัวเครื่องประกอบด้วยจอภาพ LED และการออกแบบใหม่ที่ทำให้ฐานของเครื่อง ไม่ราบไปกับพื้นเวลาใช้งาน ทำให้ลดปัญหาเรื่องความร้อนไปได้ อีกทั้งดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ทำให้ Adamo XPS ถูกใจลูกค้าในต่างประเทศเป็นอย่างมาก

7. FinePix Real 3D W1

ฟูจิฟิล์มผลิตกล้องดิจิตอลเป็นครั้งแรกในปี 1988 มาปีนี้ ทางบริษัทได้ผลิตกล้องดิจิตอล 3D เป็นครั้งแรกอีกเช่นกัน FinePix Real 3D W1 ประกอบด้วยเลนส์ 2 ข้างที่มีระยะห่างพอดี กับลูกตา ทำให้เวลาถ่ายภาพ ตัวเครื่องจะรวม 2 ภาพ ให้กลาย เป็นภาพ 3D ภาพเดียว ซึ่งสามารถดูได้จากจอภาพข้างหลังกล้อง

8. Casio G-Shock GW7900B-1

นาฬิกา G-Shock จาก Casio นี้ เป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักผจญภัย มาเป็นเวลานาน รุ่น GW7900B-1นี้ได้มีการปรับปรุง G-Rescue series ใหม่ ด้วยแผงโซลาร์ที่สามารถให้พลังงาน ได้ตลอดเวลา ทำให้คุณแทบจะไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ นอกจากนั้นยังมีวิทยุแบบติดตั้งภายในซึ่งรับสัญญาณเวลาจาก 6 สถานีทั่วโลก ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะไม่พลาดนัดอย่างแน่นอน

9. Beats Solo by Dr. Dre

หูฟังรุ่นที่ 2 นี้ สามารถโชว์พลังเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมด้วยระบบตัดเสียง รบกวนจากภายนอก และการควบคุมเครื่องเล่น MP3 อย่่าง iPod แบบติดตั้งภายใน บริษัทผู้ผลิตยืนยันว่าหูฟังของเขาจะทำให้คุณได้ยินทุกเสียงที่ศิลปินอยากให้คุณได้ยิน ทำให้ Beats Solo by Dr. Dre เป็นทางเลือกต้นๆของนักฟังเพลง

10. Panasonic G10 Series Plasma HDTVs

นี่คือโทรทัศน์ที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งการใช้พลังงานที่น้อยลงกว่าเดิมในการทำงาน นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจาก THX ซึ่งหมายความว่า คุณภาพของภาพยนตร์จะเทียบเท่ากับที่ผู้กำกับอยากให้คุณได้เห็น รวมถึงยังมี Viera Cast ที่ช่วยให้สามารถเข้าสู่เว็บไซต์วีดีโอออนไลน์ เช่น YouTube, Picasa บนโทรทัศน์ได้อีกด้วย


ข่าวจาก ไทยรัฐออนไลท์ วันที่ 1 มกราคม 2553

06 มกราคม 2553

10 เทรนด์ไอทีปี 2010

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สิ่งที่จะถูกหยิบยกมาพูดถึงในบทความนี้ไม่ใช่ Fash หรือแฟชั่นไอทีที่มาแล้วก็ไป แต่จะเป็น Trend ว่าทิศทางไอทีใดบ้างที่ผู้บริโภคจะได้เห็นในปี 2010 ซึ่งจากการประมวลแล้วพบว่าเทรนด์ที่รวบรวมมาได้นั้นสอดคล้องกันทั้งหมด และมีแนวโน้มว่าสงครามไอทีปีเสือจะดุเดือดมากขึ้น จนเชื่อว่าจะทำให้ตลาดไอทีโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบมโหฬาร

คำถามว่า ปี 2010 ยูสเซอร์จะต้องพบเจออะไรบ้าง หนึ่งหนีไม่พ้น"คลื่นเน็ตบุ๊ก"ในทะเลพีซีที่เชื่อว่ายังไม่ตายง่ายๆ สองคือ"พายุแทปเล็ต"พีซีหน้าจอสัมผัสไร้คีย์บอร์ดที่ถูกมองว่าจะเป็นดาวรุ่ง พุ่งแรงแซงใครๆ สามคือ"กระแสเครื่องอ่านอีบุ๊ก"ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะโลกกระดาษนั้นเคลื่อนตัวเข้าสู่โลกดิจิตอลแล้ว สี่คือ"มนต์สะกดวินโดวส์ 7 และออฟฟิศ 2010" จากไมโครซอฟท์ที่เชื่อว่าจะสามารถสะกดคนทั้งโลกได้มากขึ้น

ห้าคือ"อาณาจักรทีวีเจนใหม่"ที่กล้าติดชิปคอมพิวเตอร์ไว้ภายใน บนเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าทีวีจะแฮงก์เหมือนคอมพิวเตอร์ หกคือ"อหังการเครือข่ายสังคม"ซึ่งทุกสำนักฟันธงว่าโซเชีย ลเน็ตเวิร์กกิงในปีหน้าจะเติบโตขึ้นอีก

เจ็ดคือ"ทอร์นาโดไฮสปีด"เชื่อ ว่าผู้ใช้บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วในปี 2010 ซึ่งเท่ากับผู้ใช้มีโอกาสติดเชื้อไวรัสคอมพิวเตอร์ได้มากขึ้นด้วย แปดคือ"สมาร์ทโฟนคำราม"เพราะเสียงคำรามกู่ร้องในสนามรบระหว่างไอโฟน-แบล็กเบอรี่-แอนดรอยด์ในปี 2010 จะดังกึกก้องจนสะเทือนไปทั่วโลก

อย่าง ไรก็ตาม เทรนด์ที่เก้าและสิบนั้นต้องบอกว่า"ยังไม่กล้าฟันธง" ได้แก่ "ทรีจี-ไวแมกซ์"ซึ่งยังไม่มีความแน่นอนว่าจะเป็นรูปเป็นร่างอย่างไรในประเทศ ไทย รวมถึง"โลกใหม่เอ็มคอมเมิร์ซ"ที่จะยังต้องรอความชัดเจนอยู่

*****1. คลื่นเน็ตบุ๊กยังซัด

ปีที่ผ่านมาคอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊กหรือพีซีพกพาตัวเล็กราคาประหยัด สามารถเติบโตได้เพราะเศรษฐกิจไม่ดี แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในปี 2010 ตลาดเน็ตบุ๊กก็จะยังเติบโตอยู่ แต่อาจไม่โตอู้ฟู้เพราะมีคู่แข่ง

สิ่งที่ชี้ว่าเน็ตบุ๊กจะยังเติบโตต่อไปคือการที่อินเทลเปิดตัวชิป Atom รุ่นใหม่นาม n450 ทำให้เน็ตบุ๊กมีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถรองรับภาพยนตร์ความละเอียดสูงหรือ HD ได้แต่ยังไม่เต็มขั้น มีขนาดบางลง ในราคาสบายกระเป๋า แต่สิ่งที่ชี้ว่าคลื่นเน็ตบุ๊กจะไม่ซัดแรงจนเติบโตอู้ฟู้คืออินเทลนั้นระบุ ว่า ชิป n450 นั้นไม่ได้ผลิตมาสำหรับเน็ตบุ๊กอย่างเดียว แต่สามารถใช้กับคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปอื่นๆได้ด้วย ทำให้แล็ปท็อปรุ่นอื่นสามารถหั่นราคาลงเพื่อแข่งกับเน็ตบุ๊กได้อย่างถึงพริก ถึงขิง

สำหรับ ตลาดคอมพิวเตอร์ประหยัดพลังงานพิเศษหรือ CULV เชื่อว่าจะเติบโตไม่รุนแรงในปี 2010 เพราะผู้ผลิตพีซีจะกดราคาเน็ตบุ๊กลงมาแย่งตลาด โดย CULV อาจครองส่วนแบ่งได้ 30% ในปีเสือ

อีกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีเสือ คือผู้บริโภคจะสับสนเรื่องสายผลิตภัณฑ์พีซีพกพามากขึ้นอีก เนื่องจากการกำเนิดของ"สมาร์ทบุ๊ก (Smartbook)" คอมพิวเตอร์ตัวเล็กเท่าเน็ตบุ๊ก (หน้าจอไม่เกิน 10 นิ้ว) แต่ใช้ชิป ARM ซึ่งนิยมใช้ในสมาร์ทโฟน รองรับไว-ไฟและ3G ต่ออินเทอร์เน็ตได้ บนราคาที่ถูกกว่าเน็ตบุ๊ก

สรุป แล้ว จากภาพที่มองว่าเน็ตบุ๊กใกล้จะสิ้นชีพในปีนี้ แท้จริงแล้วยังไม่แน่นอน เพราะต้องลุ้นผลการต่อสู้ระหว่างเน็ตบุ๊กกับโน้ตบุ๊ก CULV สมาร์ทบุ๊ก สมาร์ทโฟน และที่สำคัญคือ คอมพิวเตอร์แทปเล็ตที่เชื่อว่าจะเป็นกระแสแรงมากในปี 2010

****2. พายุแทปเล็ต

แทปเล็ตพีซีคือคอมพิวเตอร์พกพาที่หักฝาพับหน้าจอออกไป แล้วนำหน้าจอสัมผัสมาติดไว้ที่แทนคีย์บอร์ด น้ำหนักเบา หน้าจอราว 7-10 นิ้ว ขณะนี้สินค้ากลุ่มแทปเล็ตพีซีเริ่มออกมาวางจำหน่ายอย่างจริงจังแล้ว และได้รับกระแสตอบรับมากมาย

ทั้ง หมดนี้ทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่าพีซีพกพาแต่ละชนิดจะโรมรันแข่งขันอย่างหนัก ในปี 2010 แต่ประเด็นที่จะยังเป็นคำถามสำหรับแทปเล็ตพีซีคือความเชื่อว่า ผู้บริโภคยังไม่ต้องการแทปเล็ตพีซี เพราะประสิทธิภาพที่ไม่หนีจาก CULV เครื่องอ่านอีบุ๊ก และเน็ตบุ๊ก แถมราคาก็ยังอยู่ในระดับที่แข่งขันไม่ได้

****3. กระแสเครื่องอ่านอีบุ๊ก

ปี 2010 ถูกมองว่าจะเป็นปีแห่งสงครามดิสเพลย์ หนึ่งในผู้ร่วมชิงชัยคือเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรืออีรีดเดอร์ (eReader) เชื่อว่ายอดขายอีรีดเดอร์จะทะลุ 6 ล้านเครื่องในปี 2010 บนฝีมือการผลิตของบริษัทไม่ต่ำกว่า 30 แบรนด์ แต่ละแบรนด์มีจำนวนมากกว่า 1 รุ่น

จุดเด่นของอีรีดเดอร์นั้นอยู่ที่การประหยัดพลังงาน เหมาะกับการแสดงผลตำรา อ่านง่าย รองรับไฟล์เอกสารได้หลากหลาย ล่าสุด มีรายงานว่าโรงงานผลิตหน้าจอในประเทศไต้หวันลงมือผลิตจออีอิงค์ชนิดใหม่ที่ มีราคาถูกลง ทำให้เชื่อว่าอุปกรณ์อีรีดเดอร์ทั้งหลายจะมีราคา 99 เหรียญในปีหน้า จากที่ปัจจุบันมีราคาราว 259 เหรียญ

อย่างไรก็ตาม อีรีดเดอร์นั้นมีความสามารถที่จำกัด ค้านกับคำพูดของเจ้าพ่อสตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอแอปเปิลที่บอกว่าอุปกรณ์ไอทีต้องทำได้หลายอย่าง ทำให้อนาคตของอีรีดเดอร์ยังมีภาพหมอกปกคลุมอยู่ แถมยังมีข้อจำกัดเรื่องการเปลี่ยนหน้าช้า และยังไม่มีจุดขายที่แข็งพอจะสู้กับคู่แข่งรายอื่นในสงครามดิสเพลย์ ซึ่งยังต้องรอลุ้นว่าอีรีดเดอร์จะแจ้งเกิดได้ในปี 2010 หรือไม่

ความ เคลื่อนไหวที่น่าสนใจของอีรีดเดอร์คือการรวมอีรีดเดอร์และแทปเล็ตพีซี ไว้ด้วยกัน ออกมาในรูปอีรีดเดอร์จอสี 2 จอ หนึ่งในสองจอสามารถต่ออินเทอร์เนตเพื่อเลือกไฟล์อีบุ๊ก

นอกจากนี้ กระแสอีรีดเดอร์ยังปรากฏในอุปกรณ์อื่นๆด้วย นั่นคือโปรแกรมอีรีดเดอร์บนอุปกรณ์พกพาที่ผู้บริโภคสามารถดาวน์โหลดไปติด ตั้งได้ เช่น โปรแกรมคินเดิลฟอร์ไอโฟน เป็นต้น ซึ่งเมื่อสังเกตให้ดีจะพบว่าแพลตฟอร์มอุปกรณ์ แอปพลิเคชัน และอินฟราสตรัคเจอร์ คือพื้นฐานที่สอดคล้องกันของ Gadget ในปี 2010

****4. มนต์สะกดวินโดวส์เซเว่น

สำนัก วิจัยไอดีซีเชื่อว่าปี 2010 ผู้ใช้วินโดวส์เซเว่นจะเติบโตรวดเร็วมากจนมีสัดส่วน 50% เมื่อเทียบกับผู้ใช้ทั่วโลก วินโดวส์เซเว่นจึงเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่จะมาแน่นอนในปี 2010

แม้จะมีการใช้งานวินโดวส์เซเว่นแพร่หลาย แต่ปี 2010 จะเป็นปีที่หลายบริษัทพร้อมใจกันออกบริการคลาวด์คอมพิวติง ที่มีแนวคิดหลักว่าผู้ใช้จะเก็บข้อมูลไว้ที่ใดก็ได้ ใช้ข้อมูลได้ไม่สิ้นสุด และสามารถเรียกใช้งานได้ตลอดเวลา ปี 2010 จึงเชื่อว่าพฤติกรรมการใช้ซอฟต์แวร์ในเครื่องคอมพิวเตอร์จะเปลี่ยนแปลง ชัดเจนยิ่งขึ้นในปีนี้ จากการติดตั้งซอฟต์แวร์ลงในเครื่อง มาเป็นการเรียกใช้ซอฟต์แวร์จากอินเทอร์เน็ตแทน

ไมโครซอฟท์ จึงต้องรับศึกการต่อสู้ระหว่างโลกเดสก์ท็อปและโลกอินเทอร์เน็ต ด้วยการเปิดตัวบริการ Azure (อะซัวร์) บริการคลาวด์คอมพิวติงที่อาจจะร่วมเป็นอีกแรงสะกดผู้บริโภคในปี 2010

คู่ต่อสู้ตัวแม่ของไมโครซอฟท์ในปีนี้หนีไม่พ้นกูเกิล ที่กำลังจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการออนไลน์ของตัวเองในชื่อ ChromeOS กูเกิลระบุว่าโอเอสของตัวเองสามารถทำงานได้ดีบนคอมพิวเตอร์พกพาทั้งเน็ตบุ๊ก และแทปเล็ตพีซี เท่ากับกูเกิลขอมีเอี่ยวในกระแสคอมพ์พกพาที่เชื่อว่าจะเชี่ยวกรากในปี 2010 อย่างเต็มตัว

กูเกิลมองว่าผู้ใช้แล็ปท็อป จะกลายพันธุ์เป็นผู้ใช้เน็ตบุ๊ก ขณะที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนจะกลายเป็นผู้ใช้แทปเล็ตพีซี

****5. อาณาจักรทีวีอินเทอร์เน็ต

ตลาดทีวีอินเทอร์เน็ตในปี 2010 เชื่อว่าจะมีความคึกคักสุดขีด เพราะ นอกจากความสะดวกสบายจากการเล่นอินเทอร์เน็ตบนทีวีจอยักษ์ การตอบโจทย์เรื่องข่าวอัปเดทล่าสุดจากสถานีข่าวในประเทศไทย (เนชันจับมือกับซัมซุง) วิดเจ็ทสารพัดประโยชน์บนหน้าจอทีวี และตัวคอนเทนท์วิดีโอบนอินเทอร์เน็ตในขณะนี้ที่มีคุณภาพและมีความหลากหลาย ไม่ต่างจากคอนเทนท์บนทีวี ล้วนเสริมบารมีให้ทีวีอินเทอร์เน็ตเติบโตในปี 2010 อย่างต่อเนื่อง

อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับทีวี 3 มิติอย่างแว่นตาก็เชื่อว่าจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในปี 2010 ซึ่งล่าสุดมีการผลิตแว่นตา 3 มิติแบบไฟฟ้าด้วย คุณสมบัติคือการปรับเป็นภาพ 3 มิติให้อัตโนมัติ อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้มากกว่าแบบไร้ไฟฟ้าที่ผู้บริโภคต้องปรับสายตาเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะการเปิดตัวทีวี 3 มิติเพื่อเร่งทำตลาดในปี 2010 ของค่ายปลาดิบเช่น พานาโซนิก และโซนี่ ขณะที่ผู้ผลิตฝั่งเกาหลีระบุว่าจะมุ่งพัฒนาระบบกระจายสัญญาณภาพโทรทัศน์ 3 มิติเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับอรรถรสสมจริงจากจอแก้วที่บ้าน

****6. อหังการเครือข่ายสังคม

เมื่อ ทุกอุปกรณ์ไอทีในปี 2010 ล้วนมีฟังก์ชันเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตยืนพื้น การขยายตัวของโซเชียลเน็ตเวิร์กหรือเครือข่ายสังคมจึงเป็นเรื่องที่หนีไม่ พ้น เพราะเมื่ออินเทอร์เน็ตพร้อมเท่าไหร่ ผู้บริโภคก็พร้อมจะอัปเดทคอนเทนท์บนโซเชียลเน็ตเวิร์กมากเท่านั้น

ที่สำคัญ คอนเทนท์ที่เติบโตรวดเร็วจะมีผลต่อเสิร์ชเอนจิ้นหรือระบบค้นหาข้อมูลออนไลน์ ในปี 2010 ด้วย เนื่องจากเสิร์ชเอนจินรายใหญ่อย่างกูเกิลและบิง ประกาศจับมือกับเครือข่ายสังคมทั้งเฟสบุ๊กและทวิตเตอร์เพื่อให้ชาวออนไลน์สา มารถเสิร์ชพบข้อมูลอัปเดทนาทีต่อนาทีในเครือข่ายสังคมได้ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรียลไทม์เสิร์ชในอนาคต

นอก จากเรียลไทม์เสิร์ช เชื่อว่าเครือข่ายสังคมจะให้กำเนิดตลาด"เรียลไทม์ช็อปปิ้ง" ในปี 2010 ด้วย เช่น การขายของผ่านทวิตเตอร์ ซึ่งผู้ใช้สามารถซื้อได้เลยขณะโฟลโลว์ เป็นต้น

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ใช้เฟสบุ๊กทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน และผู้ใช้ทวิตเตอร์ 30,000 คน คาดว่าจะมีการเติบโตราว 3 เท่าตัวในปี 2010

****7. ทอร์นาโดไฮสปีด

ทิศทางอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงนั้นมาแรงมากในปี 2010 สถิติผู้ใช้ในประเทศไทยบรอดแบนด์ขณะนี้มีจำนวนมากกว่า 2 ล้านรายแล้ว คาดว่าจะมีอัตราขยายตัวเกิน 3 ล้านรายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงสุดในประเทศไทยขณะนี้คือ 30Mbps

เมื่อ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแพร่หลาย สิ่งที่จะเกิดคือความนิยมเรื่องไฟล์แชร์ริ่ง โดยเฉพาะการโหลดบิต ขณะเดียวกัน ภัยออนไลน์ทั้งภัยบ็อตเน็ตและหนอนคอมพิวเตอร์ก็จะหนักขึ้นด้วย โดยในปี 2010 เชื่อกันว่าโปรแกรมให้ผู้บริโภคสร้างมัลแวร์เองจะได้รับความนิยมแพร่หลายมาก ขึ้น รวมถึงภัยเมลหลอกลวงให้ช่วยเหลือสังคม และภัยคุกคามบนอุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เช่น ไอโฟน ก็เชื่อว่าจะมีความเสียหายหนักกว่าเดิม

โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะช่วยกระตุ้นตลาดสมาร์ทโฟนทั้งแอ นดรอยด์ และไอโฟน แต่ก็จะกระตุ้นให้มีการขโมยทรัพยากรเครือข่ายมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ไวรัสบนเครือข่าย, ไวรัสบนวินโดวส์เซเว่น และไวรัสบนแมคอินทอชก็คาดว่าจะวาดลวดลายหนักข้อขึ้นในปี 2010

****8. สมาร์ทโฟนคำราม

เชื่อ ขนมกินได้เลยว่าสมาร์ทโฟนในปี 2010 จะแข่งขันดุเดือดกว่าทุกปีที่เป็นมา มีการคำนวณว่าสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ไม่ต่ำกว่า 50 เครื่องจะพากันแจ้งเกิดในปี 2010 พร้อมกับมีข่าวลือว่าไอโฟนรุ่น 4G จะแจ้งเกิดในเดือนกรกฏาคม 2010 โดยปรับให้มีกล้องดิจิตอลด้านหน้า พร้อมหน้าจอสว่างกว่าเดิม กล้อง 5.2 ล้านพิกเซล รองรับบลูทูธ

คำถามที่เกิดขึ้นคือเมื่อแอนดรอยด์และไอโฟนมาแรง ยักษ์ใหญ่โนเกียจะออกหัวก้อยอย่างไรต่อไป เป็นอีกเรื่องที่โลกต้องลุ้นกันในปี 2010 ขณะเดียวกัน ไมโครซอฟท์ก็ออกมายืนยันชัดเจนแล้วว่าวินโดวส์โมบายล์ 7 จะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 ปี 2010 ความล่าช้าที่เกิดขึ้นย่อมมีผลต่อการทำตลาดของไมโครซอฟท์ด้วย

ใน ส่วนของตลาดแอปพลิเคชัน ตลาดแอนดรอยด์ถูกประเมินว่าจะมี 80,000 แอปพลิเคชันในปี 2010 จาก 20,000 แอปพลิเคชันในปี 2009 เทียบกับไอโฟนที่มีอยู่แล้วเกิน 100,000 แอปพลิเคชัน

บริษัทวิจัยตลาดประเมินกันว่าสมาร์ทโฟนจะมีสัดส่วนตลาดราว 38% ของตลาดรวมโทรศัพท์มือถือในปี 2013 เพิ่มขึ้นจาก 9% ในปี 2009

***9. Real 3G ยังไม่เห็น

ขณะนี้ ผู้บริโภคชาวไทยบางส่วนเริ่มได้เห็นบริการอินเทอร์เน็ต 3G จากโอเปอเรเตอร์บางค่ายแล้ว คาดว่าจะได้เห็นบริการเพิ่มขึ้นในช่วงกลางปี 2010 อย่างไรก็ตาม บริการประเภท Real 3G หรือบริการ 3G แบบของแท้บนคลื่นความถี่ 2100 MHz นั้นจะเกิดขึ้นในประเทศไทยไม่ทันปลายปี 2010 แน่นอน เนื่องจากโอเปอเรเตอร์จะต้องใช้เวลาติดตั้งระบบอย่างน้อย 6 เดือนหลังได้รับใบอนุญาตหรือไลเซนส์ 3G ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนถึงกำหนดการอนุมัติไลเซนส์อย่างเป็นทางการ

****10. โลกใหม่เอ็มคอมเมิร์ซ

เอ็มคอมเมิร์ซ หรือ M-Banking บริการการเงินบนโทรศัพท์มือถือนั้นถูกมองว่าเป็นเทรนด์แรงของโลกในทุกๆปี แต่กลับไม่มีอิทธิพลเท่าที่ควรในประเทศไทยตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้ทุกธนาคารจะมีให้บริการแล้ว แต่สิ่งที่ยังขาดอยู่เสมอคือความมั่นใจผู้บริโภค และพฤติกรรมการซื้อของคนไทยที่ไม่เอื้ออำนวย

ฉะนั้น ความชัดเจนว่ากระแสอินเทอร์เน็ตร้อนแรงในปี 2010 จะช่วยกระตุ้นให้บริการการเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เติบโตยิ่งขึ้น จึงถูกสั่นคลอนเพราะความไม่มั่นใจของผู้บริโภค เอ็มคอมเมิร์ซในปีนี้จึงยังไม่มีทิศทางชัดเจนว่าจะมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นมาก น้อยเท่าใด

**********

10 เทรนด์ไอทีนี้รวบรวมโดย "ประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช" รองผู้จัดการทั่วไปและผู้อำนวยการฝ่ายนิวมีเดีย บริษัท เอ.อาร์.อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด (ARiP) ผู้จัดงานคอมมาร์ท (Commart) ซึ่งคนไทยรู้จักกันดี

ประสิทธิ์บอกว่าพฤติกรรมผู้บริโภคไอทีประเทศไทยในปี 2010 จะเปลี่ยนมาเป็นการพิจารณา 3 ส่วนหลักก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า ได้แก่ "แฟชั่น ฟังก์ชัน และราคา" ผลคือผู้ค้าในตลาดไอทีก็จะแข่งขันกันใน 3 เรื่องหลักตลอดปี 2010



ข่าวจาก ASTV ผู้จัดการออนไลท์ วันที่ 31 ธันวาคม 2552